เพื่อเป็นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับรูปภาพ ขนาดของรูปภาพและผลของการกำหนดขนาดของรูปภาพที่นำเข้ามาตกแต่งในโปรแกรม Photoshop ซึ่งจะมีผลอย่างมากเวลานำภาพนั้นๆ ไปพิมพ์ลงบนเครื่องพิมพ์ เราสามารถแบ่งประเภทของรูปภาพที่เราเห็นๆ อยู่ในคอมพิวเตอร์ได้ดังนี้
รูปภาพที่ใช้เส้น และความโค้งเป็นหลักในการสร้างภาพ การแก้ไขภาพ ด้วยการย่อหรือขยาย จะไม่มีผลทำให้ภาพนั้นเสียหาย รูปภาพที่สร้างจากโปรแกรม Vector นี้ ส่วนมากจะเป็นภาพในลักษณะการ์ตูน ไม่ใช่ภาพ Photo หรือ ภาพถ่ายทั่วๆ ไป
รูปภาพที่ประกอบด้วยจุดนำมาต่อกัน เราเรียกจุดเหล่านี้ว่า 'pixels' ถ้าจำนวน pixels มากภาพจะคมชัดกว่า เวลาขยายภาพให้ใหญ่ขึ้น คุณภาพของภาพที่ไม่ค่อยลดลง รูปภาพประเภท bitmap เหล่านี้ได้แก่รูปภาพถ่ายทั่วๆ ไป ที่ได้จากกล้องดิจิตอล หรือโทรศัพท์มือถือ
รูปภาพที่ใช้ในโปรแกรม Photoshop มีลักษณะที่เรียกว่า Bitmap หมายถึง ภาพที่ประกอบด้วยจุดสี่เหลี่ยม (pixel) มาเรียงต่อเนื่องกันเป็นภาพ ดังนั้นภาพที่มีความละเอียดสูงหรือมีจำนวน Pixels ที่สูง?เมื่อทำการซูมเข้าไปดูใกล้ๆ?ภาพที่มองเห็นก็จะคมชัดเหมือนเดิม ไม่แตกหรือมองเห็นเป็นรูปสี่เหลี่ยม
Dot Per Inch คือความละเอียดหรือจำนวนจุดในพื้นที่หนึ่งตารางนิ้ว โดยในแต่ละจุดเราจะเรียกว่า พิกเซล Pixel
ถ้าภาพใดมีจำนวนพิเซลสูง ๆ ภาพนั้นก็จะให้ความละเอียดและความคมชัดในการพิมพ์ อย่างไรก็ตามก็กำหนดจำนวนพิกเซลนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ด้วย เช่น ถ้าต้องการนำไปแสดงผลที่หน้าจอ หรือบน web ก็อาจใช้จำนวนพิเซลประมาณ 72 dpi (Macintosh) หรือ 92 dpi (PC) แต่ถ้าต้องการนำไปใช้ในการพิมพ์อาจจำเป็นต้องกำหนดค่าความละเอียดที่ 350 dpi เป็นต้น การกำหนดจำนวน พิกเซล นอกจากมีผลกับความละเอียดแล้ว ขนาดของไฟล์ก็จะมีผลด้วย
การกำหนดจำนวน พิกเซล เพื่อการพิมพ์ จำเป็นต้องดูความละเอียดในการพิมพ์ของเครื่องพิมพ์ด้วย เช่น เครื่องมือสามารถพิมพ์ความละเอียดสูงสุดได้ที่ 600 dpi ดังนั้น เราก็ไม่ควรกำหนดรายละเอียดของภาพให้สูงกว่า 600 dpi เพราะเครื่องพิมพ์จะไม่สามารถพิมพ์รายละเอียดได้ และจะทำให้ความเร็วในการพิมพ์ลดน้อยลง..