Firewall สำหรับองค์กรธุรกิจ

LAN Office

Firewall บนระบบปฏิบัติการอาจไม่เพียงพอ เพราะถ้าคุณมีระบบเครือข่าย หรือ Network ภายในองค์กร เพราะการบริหารจัดการทำได้ยาก และไม่สามารถป้องกันภัยจากเครือข่ายภายนอกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

องค์กรของคุณ มีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่าง Firewall แล้วหรือยัง !

Top 5 Firewalls ที่คนนิยมใช้ในประเทศไทย 

1. Fortinet FortiGate  
FortiGate เป็น Firewall แบบ Unified Threat Management (UTM) ที่มีประสิทธิภาพสูง รองรับการป้องกันภัยคุกคามหลากหลายรูปแบบ เช่น Anti-Malware, Intrusion Prevention, และ Web Filtering  

จุดเด่น:  
  • อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย  
  • มีฟีเจอร์ครบครันสำหรับองค์กรขนาดเล็กถึงใหญ่  
  • รองรับการจัดการผ่าน Cloud  
  • ราคาคุ้มค่า  
จุดด้อย:  
  • การตั้งค่าเริ่มต้นอาจซับซ้อนสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์  
  • การอัปเดต Signature บางครั้งอาจล่าช้า  

2. Cisco ASA (Adaptive Security Appliance)  
Cisco ASA เป็น Firewall ที่เน้นความปลอดภัยของเครือข่ายระดับองค์กร รองรับ VPN และ Advanced Threat Protection  

จุดเด่น:  
  • เชื่อมต่อกับระบบของ Cisco อื่น ๆ ได้ดี  
  • รองรับการปรับขยายสำหรับองค์กรขนาดใหญ่  
  • มีการอัปเดตและสนับสนุนที่ยอดเยี่ยม  
จุดด้อย:  
  • ค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะในส่วนการบำรุงรักษา  
  • การตั้งค่าระบบต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ  


3. Palo Alto Networks (PAN)  
Palo Alto Networks ใช้เทคโนโลยี Next-Generation Firewall (NGFW) ที่เน้นการควบคุมแอปพลิเคชันและการตรวจจับภัยคุกคามแบบเชิงลึก  

จุดเด่น:  
  • การควบคุมและมองเห็นทราฟฟิกที่ละเอียดมาก  
  • ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการตรวจจับภัยคุกคาม  
  • มี Threat Intelligence ที่ทันสมัย  
จุดด้อย:  
  • ราคาสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง  
  • อินเทอร์เฟซอาจซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น  


4. SonicWall  
SonicWall เป็น Firewall ที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก รองรับ VPN และ Content Filtering  

จุดเด่น:  
  • การตั้งค่าง่ายและอินเทอร์เฟซเป็นมิตร  
  • รองรับการป้องกันภัยคุกคามแบบ Real-Time  
  • ราคาย่อมเยา  
จุดด้อย:  
  • ฟีเจอร์บางอย่างอาจจำกัดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง  
  • การสนับสนุนในประเทศไทยอาจไม่ครอบคลุม  


5. Checkpoint  
Checkpoint Firewall โดดเด่นด้านความปลอดภัยขั้นสูง เช่น การป้องกัน Ransomware และ Data Loss Prevention  

จุดเด่น:  
  • มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ล้ำสมัย  
  • การวิเคราะห์ภัยคุกคามในเชิงลึก  
  • มีโซลูชันที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ  
จุดด้อย:  
  • ราคาสูง  
  • ต้องการการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ  

คำแนะนำ  เลือก Firewall ที่เหมาะสมกับงบประมาณและขนาดของธุรกิจ พร้อมทั้งคำนึงถึงฟีเจอร์ที่จำเป็น เช่น VPN, Intrusion Prevention, และการอัปเดต Threat Intelligence เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในระยะยาว


แนวทางการเลือกซื้อ Firewall

1. ความต้องการด้านความปลอดภัย  
ตรวจสอบว่าองค์กรของคุณต้องการป้องกันภัยคุกคามแบบใด เช่น  
  • พื้นฐาน: ป้องกันไวรัสและมัลแวร์  
  • ขั้นสูง: ป้องกัน DDoS, Ransomware, Intrusion Detection/Prevention (IDS/IPS)  
  • เฉพาะเจาะจง: ควบคุมการเข้าถึงเว็บ (Web Filtering) หรือป้องกันข้อมูลรั่วไหล (Data Loss Prevention)
ตัวอย่าง 
  • องค์กรที่ต้องการป้องกันระดับสูงควรเลือก Next-Generation Firewall (NGFW)  
  • ธุรกิจขนาดเล็กอาจเลือก Firewall ที่รองรับ Unified Threat Management (UTM)

2. ขนาดของเครือข่าย  
คำนวณจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในระบบเครือข่าย  
  • ขนาดเล็ก: รองรับผู้ใช้น้อยกว่า 50 คน  
  • ขนาดกลาง: รองรับผู้ใช้ 50-500 คน  
  • ขนาดใหญ่: รองรับผู้ใช้งานหลายพันคน  
ตัวอย่าง:  
  • ธุรกิจขนาดเล็กอาจเลือก FortiGate รุ่นเริ่มต้น  
  • ธุรกิจขนาดใหญ่ควรเลือก Cisco หรือ Palo Alto Networks  

3. แบนด์วิดท์ (Throughput)  
Firewall ต้องสามารถรองรับปริมาณข้อมูลที่ไหลผ่านระบบได้  
  • ตรวจสอบว่าปริมาณทราฟฟิกในเครือข่าย (Mbps หรือ Gbps) สอดคล้องกับรุ่นที่เลือก  
  • หากมีการใช้งาน VPN หรือแอปพลิเคชันที่ใช้แบนด์วิดท์สูง ให้เลือกรุ่นที่มีค่าประสิทธิภาพสูง  

4. ฟีเจอร์เพิ่มเติม  
พิจารณาความสามารถเสริม เช่น  
  • VPN Support: รองรับการเชื่อมต่อระยะไกล (Remote Access)  
  • Cloud Integration: รองรับการจัดการ Firewall ผ่าน Cloud  
  • Threat Intelligence: อัปเดตฐานข้อมูลภัยคุกคามแบบเรียลไทม์  

5. งบประมาณ  
  • กำหนดงบประมาณสำหรับค่าอุปกรณ์และการบำรุงรักษา (Maintenance)  
  • พิจารณารุ่นที่คุ้มค่ากับราคา โดยไม่ลดทอนความปลอดภัย  

6. การสนับสนุนในพื้นที่ (Local Support)  
ตรวจสอบว่ามีตัวแทนจำหน่ายหรือบริการซัพพอร์ตในประเทศไทย เพื่อการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว  


ตัวอย่างการเลือก Firewall  

1. ธุรกิจขนาดเล็ก:  
  • รุ่นที่เหมาะสม: Fortinet FortiGate 40F หรือ SonicWall TZ Series  
  • เหตุผล: ราคาย่อมเยา ฟีเจอร์ครบครัน  
2. องค์กรขนาดกลาง:  
  • รุ่นที่เหมาะสม: Cisco ASA 5500 หรือ Palo Alto PA-220  
  • เหตุผล: รองรับทราฟฟิกสูง ฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง  
3. องค์กรขนาดใหญ่:  
  • รุ่นที่เหมาะสม: Checkpoint Quantum Series หรือ Palo Alto PA-3200  
  • เหตุผล: ปรับขยายได้ มี Threat Intelligence ระดับสูง  

ปัจจุบัน มีการให้บริการ Firewall บน Cloud แล้วเช่นเดียวกัน

บทสรุป  การเลือกรุ่น Firewall ที่เหมาะสมต้องพิจารณาจากความต้องการเฉพาะด้าน, ขนาดของเครือข่าย, และงบประมาณ รวมถึงการซัพพอร์ตหลังการขายที่มั่นใจได้ว่าระบบจะปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดในระยะยาว