เครื่องมือ AI สามารถช่วยในการปรับแก้ไของค์ประกอบต่างๆ เช่น การลบหรือเพิ่มวัตถุ, การปรับแสงและสี, รวมถึงการเปลี่ยนแปลงพื้นหลังหรือองค์ประกอบในภาพให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้งาน
นอกจากนี้ยังช่วยให้นักออกแบบสามารถทดลองแนวคิดใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ทุกครั้ง การใช้ AI ทำให้กระบวนการออกแบบมีความยืดหยุ่นและสร้างสรรค์มากขึ้น ลดข้อผิดพลาดและการปรับแต่งที่ใช้เวลานาน เพิ่มโอกาสในการสร้างผลงานที่มีคุณภาพสูงในเวลาที่จำกัด
AI ที่สามารถแก้ไขภาพจากต้นฉบับ
1. Adobe Photoshop (Generative Fill)
- ความสามารถ: ฟีเจอร์ Generative Fill ใช้ AI เพื่อแก้ไข เพิ่มเติม หรือสร้างภาพจากพื้นที่ว่างของภาพต้นฉบับ เช่น ลบวัตถุ เพิ่มแบ็คกราวด์ หรือปรับแต่งองค์ประกอบ
- จุดเด่น: รองรับการแก้ไขภาพอย่างละเอียดและให้ผลลัพธ์ที่ดูสมจริง
- วิธีการใช้: เลือกส่วนที่ต้องการแก้ไขในภาพ > ใช้ Generative Fill เพื่อให้ AI สร้างภาพใหม่
2. Runway ML
- - ความสามารถ: สร้างหรือแก้ไขภาพผ่าน Text-to-Image หรือปรับแต่งภาพที่อัปโหลด โดยใช้ AI
- - จุดเด่น: ใช้งานง่ายผ่านเบราว์เซอร์ และรองรับงานแก้ไขวิดีโอด้วย
- - วิธีการใช้: อัปโหลดภาพ > กำหนดคำสั่งหรือข้อความเพื่อปรับแต่ง
3. DALL·E 3 (by OpenAI)
- ความสามารถ: สร้างและแก้ไขภาพตามคำอธิบายข้อความ รวมถึงการปรับแก้ไขส่วนใดส่วนหนึ่งของภาพ
- จุดเด่น: การผสมผสานความคิดสร้างสรรค์จากข้อความสู่ภาพ
- วิธีการใช้: ใส่ข้อความคำสั่ง (Prompt) ที่ต้องการ AI สร้างหรือแก้ไขภาพ
4. Luminar Neo
- ความสามารถ: ปรับแต่งภาพถ่ายด้วย AI เช่น การลบวัตถุ, ปรับแสง, เพิ่มสี หรือเปลี่ยนท้องฟ้า
- จุดเด่น: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับแต่งภาพถ่ายอย่างรวดเร็วและใช้งานง่าย
- วิธีการใช้: อัปโหลดภาพ > เลือกฟีเจอร์ AI สำหรับการแก้ไข
5. Fotor
- ความสามารถ: ปรับแต่งภาพ เช่น การลบพื้นหลัง เพิ่มเอฟเฟกต์ หรือปรับแต่งใบหน้าด้วย AI
- จุดเด่น: ใช้งานฟรีบนเว็บและแอปพลิเคชัน
- วิธีการใช้: อัปโหลดภาพ > เลือกเครื่องมือที่ต้องการ เช่น Background Remover หรือ Face Retouch
6. Clipdrop
- ความสามารถ: แก้ไขภาพ เช่น การลบวัตถุ เปลี่ยนพื้นหลัง หรือเพิ่มข้อความในภาพ
- จุดเด่น: ใช้งานง่ายทั้งในเว็บและแอปพลิเคชัน
- วิธีการใช้: อัปโหลดภาพ > ใช้ฟีเจอร์ AI เช่น Cleanup หรือ Relight
ตัวเลือกที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับ
- วัตถุประสงค์ (เช่น ลบวัตถุ ปรับแสง หรือสร้างภาพใหม่)
- ความสะดวกในการใช้งาน (เครื่องมือบนเว็บหรือแอปพลิเคชัน)
- งบประมาณ (บางเครื่องมือมีฟีเจอร์ฟรี ขณะที่บางตัวอาจมีค่าใช้จ่าย)
บทสรุป การใช้ AI ในการแก้ไขภาพต้นฉบับช่วยให้กระบวนการออกแบบมีความรวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น นักออกแบบสามารถปรับแต่งภาพได้ตามต้องการ ลดเวลาและความยุ่งยากในการทำงาน ทำให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้หลากหลายและมีคุณภาพสูงขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวม