ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสื่อมัลติมีเดีย เช่น เสียงหรือภาพเคลื่อนไหว การปรับแต่งตัวหนังสือ หรือแม้แต่การใช้ฟีเจอร์การสร้างกราฟที่ช่วยให้ข้อมูลในงานนำเสนอเข้าใจง่ายและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น การเรียนรู้วิธีใช้ฟีเจอร์เหล่านี้จึงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและช่วยให้การนำเสนอมีความโดดเด่นกว่าที่เคย
Google Slides มีฟีเจอร์หลายตัวที่สามารถช่วยให้การนำเสนองานของคุณมีความน่าสนใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งบางฟีเจอร์อาจจะไม่เป็นที่รู้จักหรือถูกใช้กันบ่อยนัก ดังนั้น นี่คือ
ฟีเจอร์น่าใช้ใน Google Slides
1. การแทรกรูปแบบการเปลี่ยนภาพอัตโนมัติ (Auto Layouts)
- วิธีทำ: เลือกสไลด์ที่ต้องการ แล้วคลิกที่ "Layout" ในแถบเครื่องมือเพื่อเลือกการจัดรูปแบบใหม่ให้อัตโนมัติ เช่น การเพิ่มรูปภาพหรือข้อความ.
2. การใส่เสียงในสไลด์
- วิธีทำ: คลิกที่ Insert > Audio แล้วเลือกไฟล์เสียงจาก Google Drive เพื่อเพิ่มลงในสไลด์.
3. การเพิ่มการเปลี่ยนสไลด์แบบไม่ใช่การเคลื่อนไหว
- วิธีทำ: คลิกที่ Slide > Transition และเลือก None เพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนไหวระหว่างสไลด์.
4. การใช้คำบรรยายอัตโนมัติ
- วิธีทำ: คลิกที่ Tools > Voice typing แล้วพูดและคำบรรยายจะปรากฏในสไลด์.
5. การซ่อนสไลด์
- วิธีทำ: คลิกขวาที่สไลด์ที่ต้องการซ่อนและเลือก Skip slide ซึ่งจะไม่แสดงในขณะนำเสนอ.
6. การใช้ตัวอักษรโค้ด (Code Formatting)
- วิธีทำ: ใช้การเพิ่มข้อความที่มีรูปแบบการแสดงผลคล้ายโค้ดโดยการใช้ Insert > Text box และปรับรูปแบบเป็นฟอนต์ที่เหมาะสม เช่น Courier New.
7. การแทรกรูปภาพจาก URL
- วิธีทำ: คลิกที่ Insert > Image > By URL แล้ววาง URL ของรูปภาพที่ต้องการ.
8. การซ่อนบรรทัดหรือช่องข้อความ
- - วิธีทำ: คลิกขวาที่กล่องข้อความหรือองค์ประกอบที่ต้องการซ่อนและเลือก Cut (เพื่อเก็บไว้ในคลิปบอร์ด) หรือ Delete.
9. การใช้ Custom Animation
- วิธีทำ: ไปที่ Slide > Transition แล้วคลิกที่ "Object Animations" เพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวพิเศษที่สามารถปรับแต่งได้.
10. การสร้างกราฟในสไลด์
- วิธีทำ: คลิกที่ Insert > Chart แล้วเลือกประเภทกราฟที่ต้องการ เช่น Bar, Line, หรือ Pie.
11. การตั้งค่ารูปแบบการแสดงผลของตัวหนังสือ
- วิธีทำ: ใช้เครื่องมือ Text box เพื่อปรับขนาด, สี, และฟอนต์ตัวหนังสือให้มีสไตล์เฉพาะ.
12. การเพิ่มลิงก์ภายในสไลด์
- วิธีทำ: เลือกข้อความหรือวัตถุที่ต้องการแล้วคลิกขวาเพื่อเลือก Link แล้วใส่ลิงก์ URL หรือสไลด์ที่ต้องการ.
13. การสร้างสไลด์แบบย่อ (Zoom)
- วิธีทำ: ใช้เครื่องมือ Zoom เพื่อซูมเข้าไปในส่วนต่างๆ ของสไลด์สำหรับการนำเสนอที่มีรายละเอียดมาก.
14. การสร้างสไลด์จากสไตล์ที่มีอยู่
- วิธีทำ: ใช้ Master slide ในการออกแบบเทมเพลตที่ใช้ได้กับหลายสไลด์พร้อมกัน.
15. การนำเสนอสไลด์ในแบบ Live
- วิธีทำ: คลิกที่ Present แล้วเลือก Present to the web เพื่อแชร์การนำเสนอแบบออนไลน์ให้คนอื่นสามารถดูแบบสดๆ ได้.
16. การตั้งเวลาให้สไลด์เปลี่ยนเอง
- วิธีทำ: ใช้ Slide transition แล้วตั้งเวลาให้สไลด์เปลี่ยนอัตโนมัติหลังจากระยะเวลาเฉพาะ.
17. การใช้เครื่องมือ Trace Text (เขียนข้อความที่ซ้อนกัน)
- วิธีทำ: ใช้ Line tool แล้วเลือกเป็นข้อความที่ต้องการให้แสดงเป็นเส้นรอบตัว.
18. การเพิ่มตัวเลขหน้า
- วิธีทำ: ไปที่ Insert > Slide numbers แล้วเลือกตำแหน่งที่จะให้ตัวเลขหน้าปรากฏ.
19. การใช้สีพื้นหลังแบบ Gradient
- วิธีทำ: คลิกขวาที่สไลด์แล้วเลือก Background จากนั้นเลือก Gradient เพื่อเพิ่มพื้นหลังแบบไล่สี.
20. การใช้แม่แบบจาก Google Slides Template Gallery
- วิธีทำ: เปิด Google Slides แล้วเลือก Template gallery เพื่อเลือกแม่แบบที่มีการออกแบบไว้ล่วงหน้าสำหรับการเริ่มต้นงานได้อย่างรวดเร็ว.
บทสรุป การเรียนรู้ฟีเจอร์ลับใน Google Slides ช่วยเพิ่มความน่าสนใจและสร้างสรรค์ให้กับงานนำเสนอ ด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยให้สามารถเพิ่มความหลากหลายทั้งในด้านภาพ เสียง และกราฟิก ทำให้งานนำเสนอของคุณดูมืออาชีพและดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ