นอกจากนี้ การใช้งานบัตรที่มีชิพยังทำให้การทำธุรกรรมมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น ทั้งในรูปแบบการชำระเงินแบบปกติและแบบไร้สัมผัส ด้วยคุณสมบัติที่สามารถป้องกันการปลอมแปลงและเพิ่มความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรม ไมโครชิพบนบัตรจึงเป็นมาตรฐานสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมได้อย่างมั่นใจ
ไมโครชิพบนบัตรเครดิต คือชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่ฝังอยู่ในบัตร เพื่อจัดเก็บและป้องกันข้อมูลสำคัญของผู้ถือบัตร ไมโครชิพนี้มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า EMV (Europay, MasterCard, and Visa) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ในบัตรเครดิตและบัตรเดบิตที่มีชิพฝังอยู่
ประโยชน์ของไมโครชิพบนบัตร
1. ความปลอดภัยสูงขึ้น
ไมโครชิพช่วยลดโอกาสการทำบัตรปลอมและป้องกันการโจรกรรมข้อมูล เพราะไมโครชิพสามารถสร้างรหัสสำหรับการทำธุรกรรมใหม่ทุกครั้ง ทำให้ยากต่อการคัดลอกข้อมูล
ไมโครชิพช่วยลดโอกาสการทำบัตรปลอมและป้องกันการโจรกรรมข้อมูล เพราะไมโครชิพสามารถสร้างรหัสสำหรับการทำธุรกรรมใหม่ทุกครั้ง ทำให้ยากต่อการคัดลอกข้อมูล
2. ป้องกันการปลอมแปลง
เนื่องจากข้อมูลบนไมโครชิพไม่ได้คงที่ การใช้เทคโนโลยีนี้จึงช่วยป้องกันการปลอมแปลงบัตรได้ดีกว่าบัตรที่มีแถบแม่เหล็กแบบเก่า
เนื่องจากข้อมูลบนไมโครชิพไม่ได้คงที่ การใช้เทคโนโลยีนี้จึงช่วยป้องกันการปลอมแปลงบัตรได้ดีกว่าบัตรที่มีแถบแม่เหล็กแบบเก่า
3. การประมวลผลรวดเร็ว
การทำธุรกรรมด้วยบัตรที่มีไมโครชิพจะรวดเร็วกว่าและมีความน่าเชื่อถือมากกว่าการใช้แถบแม่เหล็ก
การทำธุรกรรมด้วยบัตรที่มีไมโครชิพจะรวดเร็วกว่าและมีความน่าเชื่อถือมากกว่าการใช้แถบแม่เหล็ก
4. สามารถใช้กับระบบ NFC
บัตรที่มีไมโครชิพบางประเภทสามารถใช้ร่วมกับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (contactless) ได้ ซึ่งช่วยให้การทำธุรกรรมสะดวกและรวดเร็ว
บัตรที่มีไมโครชิพบางประเภทสามารถใช้ร่วมกับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (contactless) ได้ ซึ่งช่วยให้การทำธุรกรรมสะดวกและรวดเร็ว
การทำงานของไมโครชิพ
ไมโครชิพบนบัตรทำงานโดยการเก็บข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ในชิพ เมื่อบัตรถูกใช้งาน เช่น ชำระเงินในร้านค้า ข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในไมโครชิพจะถูกส่งไปยังเครื่องอ่านบัตรเพื่อทำการตรวจสอบและประมวลผล การทำธุรกรรมจะต้องใช้ PIN หรือการเซ็นชื่อเพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งช่วยให้การทำธุรกรรมปลอดภัยยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากบัตรเครดิต ไมโครชิพยังถูกนำมาใช้ในหลายด้าน เช่น
- บัตรประชาชน: ใช้ในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและยืนยันตัวตน
- บัตรเดบิต: สำหรับการทำธุรกรรมการเงินอย่างปลอดภัย
- พาสปอร์ตอิเล็กทรอนิกส์ (e-Passport): เก็บข้อมูลผู้ถือและใช้ในการตรวจสอบยืนยันตัวตนที่สนามบิน
- บัตรสมาร์ทการ์ด (Smart Card): ใช้ในองค์กรเพื่อการเข้าถึงระบบหรืออาคาร
- สัตว์เลี้ยง: ไมโครชิพฝังในสัตว์เลี้ยงเพื่อเก็บข้อมูลประจำตัวสำหรับการระบุตัวตน
- อุปกรณ์ IoT: ใช้ควบคุมและเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ในระบบอัตโนมัติ
- ระบบรักษาความปลอดภัย: ใช้ในบัตรผ่านประตูหรือบัตรพนักงาน
บทสรุป ไมโครชิพช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในหลายด้านในชีวิตประจำวัน รวมทั้งป้องกันการปลอมแปลงข้อมูล ใช้ในบัตรเครดิต บัตรประชาชน พาสปอร์ตอิเล็กทรอนิกส์ และสัตว์เลี้ยง ทำให้ธุรกรรมและการใช้งานต่าง ๆ รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น