ทิปบริหารพื้นที่เก็บข้อมูลบน Windows

Cleanup
คุณมีปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่เก็บข้อมูลในคอมฯ หรือเปล่า  

คุณทราบหรือไม่ว่า พื้นที่เก็บข้อมูลบน Windows เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดเก็บและจัดการข้อมูลต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลดิจิทัลมีความสำคัญอย่างมาก การมีพื้นที่เก็บข้อมูลเพียงพอไม่เพียงแต่ช่วยให้สามารถเก็บไฟล์เอกสาร รูปภาพ และวิดีโอได้ แต่ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบด้วย เนื่องจากพื้นที่เก็บข้อมูลที่ไม่เพียงพออาจทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงหรือเกิดปัญหาต่างๆ ได้ ดังนั้น การจัดการพื้นที่เก็บข้อมูลจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการใช้ Windows อย่างมีประสิทธิภาพ

Storage Sense คืออะไร

ขอแนะนำ "Storage Sense" ฟีเจอร์ที่มีอยู่ในระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้จัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในอุปกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพ ฟีเจอร์นี้ทำงานโดยการลบไฟล์ชั่วคราวและไฟล์ที่ไม่ได้ใช้งานในโฟลเดอร์ต่าง ๆ อัตโนมัติ เช่น ไฟล์ในถังขยะและโฟลเดอร์ดาวน์โหลด 

Storage Sense
การเปิดใช้งาน Storage Sense จะช่วยลดปัญหาการขาดพื้นที่ในฮาร์ดไดรฟ์ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้งานนาน ๆ นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น โดยการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการ การจัดการพื้นที่อย่างมีระเบียบไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการลบไฟล์ด้วยตนเอง แต่ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานอุปกรณ์อีกด้วย


วิธีการตั้งค่าและใช้งาน Storage Sense

1. เปิด Settings   
  • คลิกที่ Start (ปุ่ม Windows ที่มุมซ้ายล่างของหน้าจอ) หรือกดปุ่ม Windows บนแป้นพิมพ์
  • เลือก Settings (ไอคอนรูปเฟือง) จากเมนูที่ปรากฏขึ้น

2. เข้าไปที่ Storage   
  • ในหน้าต่าง Settings ให้เลือก System
  • จากนั้นเลือก Storage ในแถบด้านซ้ายของหน้าต่าง ระบบจะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พื้นที่ในไดรฟ์ของคุณ

3. เปิดใช้งาน Storage Sense   
  • ในหน้าจอ Storage, คุณจะเห็นตัวเลือก Storage Sense
  • เลื่อนสวิตช์ไปทางขวาเพื่อเปิดใช้งาน (สวิตช์จะเปลี่ยนเป็นสีฟ้า)

4. ตั้งค่าการลบไฟล์อัตโนมัติ   
  • หลังจากเปิดใช้งาน Storage Sense ให้คลิกที่ Configure Storage Sense or run it now
  • ในหน้า Storage Sense, คุณจะพบตัวเลือกต่าง ๆ สำหรับการจัดการไฟล์
    -  Delete temporary files
        ตั้งค่าให้ลบไฟล์ชั่วคราวเมื่อพื้นที่จัดเก็บต่ำ เช่น กำหนดให้ลบทุก 14, 30 หรือ 60 วัน
    -  Delete files in my recycle bin
        กำหนดว่าจะลบไฟล์ในถังขยะหลังจากจำนวนวันที่กำหนด (เช่น 30 วัน)
    -  Delete files in my Downloads folder
        กำหนดว่าจะลบไฟล์ในโฟลเดอร์ดาวน์โหลดถ้าฝ่ายไม่ได้เปิดใช้งานเป็นระยะเวลานาน

5. การจัดการพื้นที่ของ OneDrive   
  • ในหน้าการตั้งค่า Storage Sense คุณจะเห็นตัวเลือกสำหรับ OneDrive
  • หากเปิดใช้งาน คุณสามารถเลือกให้ Windows จัดการไฟล์ที่ซิงค์กับ OneDrive โดยอัตโนมัติ คุณสามารถเลือกให้ลบไฟล์ที่ไม่ได้ใช้ใน OneDrive หลังจาก 30 วัน, 60 วัน หรือเลือกให้ลบทุกครั้งที่ไม่ใช้งาน

6. เรียกใช้ Storage Sense ทันที   
  • กลับมาที่หน้าต่าง Configure Storage Sense or run it now
  • คุณจะเห็นปุ่ม Clean now
  • คลิกที่ปุ่มนี้เพื่อให้ Storage Sense เริ่มกระบวนการลบไฟล์ชั่วคราวและไฟล์ที่ไม่จำเป็นในทันที

สิ่งสำคัญ ! และข้อควรทราบ
  • การสำรองข้อมูล: ก่อนที่คุณจะตั้งค่าให้ลบไฟล์อัตโนมัติ ควรสำรองข้อมูลที่สำคัญเสมอ เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลที่ไม่ต้องการ
  • ตรวจสอบพื้นที่: คอยตรวจสอบพื้นที่จัดเก็บหลังจากใช้ Storage Sense เพื่อให้แน่ใจว่าได้เพิ่มพื้นที่จัดเก็บตามต้องการ

บทสรุป ด้วยการตั้งค่าและจัดการ Storage Sense ตามขั้นตอนข้างต้น คุณจะสามารถจัดการพื้นที่จัดเก็บใน Windows ได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบได้ดียิ่งขึ้น!