ความปลอดภัยไซเบอร์ในยุคดิจิทัล

Secure Digital World

คุณคิดว่าข้อมูลบนโลกดิจิตอลของคุณปลอดภัยแค่ไหน  

ความปลอดภัยไซเบอร์ในยุคดิจิทัลเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องใส่ใจมากขึ้น เนื่องจากมีการใช้งานระบบออนไลน์และเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันอย่างกว้างขวาง การโจมตีไซเบอร์สามารถส่งผลต่อข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลธุรกิจ และความเป็นส่วนตัวได้ การป้องกันตัวเองจากการโจมตีทางไซเบอร์และการรั่วไหลของข้อมูลต้องใช้การปฏิบัติตามมาตรการที่ถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งรายละเอียดและวิธีการป้องกันสามารถทำได้ดังนี้


5 วิธีป้องกันภัยในโลกดิจิตอล

1. การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption)
รายละเอียด: การเข้ารหัสข้อมูลเป็นการเปลี่ยนข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถอ่านได้ เว้นแต่จะมีคีย์ที่ใช้ถอดรหัส ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ไม่สามารถเข้าถึงหรือเข้าใจข้อมูลได้

วิธีการเข้ารหัสข้อมูล
  • ใช้เครื่องมือหรือซอฟต์แวร์เข้ารหัสข้อมูล เช่น SSL/TLS ในการป้องกันข้อมูลที่ถูกส่งผ่านทางอินเทอร์เน็ต
  • หากจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญในดิสก์ ให้ใช้การเข้ารหัสข้อมูลแบบ Full Disk Encryption (FDE)
  • การใช้งานระบบปฏิบัติการที่รองรับการเข้ารหัสไฟล์ เช่น BitLocker สำหรับ Windows หรือ FileVault สำหรับ Mac

2. การอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำ
รายละเอียด: ซอฟต์แวร์หรือระบบที่ไม่ได้รับการอัปเดตอาจมีช่องโหว่ที่แฮกเกอร์สามารถโจมตีได้ ดังนั้นการอัปเดตเพื่อปิดช่องโหว่และปรับปรุงระบบความปลอดภัยเป็นสิ่งจำเป็น

วิธีทำอัปเดตซอฟต์แวร์
  • เปิดฟังก์ชันการอัปเดตอัตโนมัติสำหรับระบบปฏิบัติการและโปรแกรมที่ใช้งาน
  • ตรวจสอบการแจ้งเตือนการอัปเดตซอฟต์แวร์จากผู้ผลิตและดำเนินการอัปเดตทันทีที่มีการประกาศ

3. การใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่งและการยืนยันตัวตนสองชั้น (Two-Factor Authentication)
รายละเอียด: รหัสผ่านที่ง่ายเกินไปอาจถูกแฮกเกอร์เดาได้ง่าย การใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่งและการยืนยันตัวตนสองชั้นช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัย

วิธีใช้การยืนยันสองชั้น
  • ใช้รหัสผ่านที่มีความยาวอย่างน้อย 12 ตัวอักษร รวมถึงตัวเลข สัญลักษณ์ และตัวอักษรพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก ผสมผสานกันไป
  • ใช้เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน (Password Manager) เพื่อสร้างและจัดเก็บรหัสผ่านที่ปลอดภัย
  • เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองชั้นบนบัญชีสำคัญ เช่น อีเมลอย่างเช่น Gmail บัญชีธนาคาร หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะ Facebook 

4. การสำรองข้อมูล (Backup)
รายละเอียด: การสำรองข้อมูลช่วยป้องกันความเสียหายจากการโจมตีด้วยมัลแวร์ประเภทเรียกค่าไถ่ (Ransomware) ที่อาจล็อกหรือทำลายข้อมูล 

วิธีสำรองข้อมูล
  • สำรองข้อมูลเป็นประจำในสื่อบันทึกที่แยกจากระบบหลัก เช่น External Hard Drive หรือ Cloud Storage
  • ตั้งค่าให้การสำรองข้อมูลทำงานแบบอัตโนมัติ เพื่อลดความเสี่ยงจากการลืมทำการสำรองข้อมูล
  • เก็บสำเนาสำรองข้อมูลในหลายสถานที่ เช่น บนคลาวด์และอุปกรณ์ภายนอก

5. การเฝ้าระวังและตรวจสอบความผิดปกติ (Monitoring)
รายละเอียด: การตรวจสอบระบบและเครือข่ายเป็นประจำช่วยป้องกันการโจมตีไซเบอร์หรือการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตได้ล่วงหน้า

วิธีการเฝ้าระวัง
  • ใช้ระบบตรวจสอบภัยคุกคาม (Threat Detection Systems) หรือระบบวิเคราะห์กิจกรรมเครือข่าย (Network Monitoring) เพื่อเฝ้าระวังการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น
  • กำหนดให้มีการแจ้งเตือนเมื่อพบกิจกรรมที่ผิดปกติ เช่น การเข้าถึงระบบในช่วงเวลาที่ผิดปกติหรือจากตำแหน่งที่ไม่เคยมีการใช้งานมาก่อน
  • ฝึกฝนและอบรมพนักงานหรือผู้ใช้เกี่ยวกับภัยคุกคามไซเบอร์และวิธีการระวังตัว เช่น วิธีการรับมือกับฟิชชิงอีเมลหรือมัลแวร์

บทสรุป ในยุคดิจิทัลที่การโจมตีทางไซเบอร์เป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสข้อมูล การอัปเดตซอฟต์แวร์ การใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่ง การสำรองข้อมูล และการเฝ้าระวังเป็นมาตรการที่สำคัญในการปกป้องข้อมูลจากการโจมตีและรั่วไหล เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวและธุรกิจในโลกดิจิทัล