แนะวิธีเลือกซื้อเคสที่เหมาะกับคุณ

Case Smartphone

การเลือกเคสสำหรับสมาร์ทโฟนเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันและมีค่าใช้จ่ายสูง การป้องกันอุปกรณ์นี้จากความเสียหายจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เคสสามารถช่วยป้องกันสมาร์ทโฟนจากการกระแทก การตกหล่น รอยขีดข่วน และสิ่งสกปรกต่าง ๆ 

นอกจากการป้องกันความเสียหายแล้ว เคสยังเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานและช่วยให้การจับถือสมาร์ทโฟนได้มั่นคงยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์และสีสันที่หลากหลาย เคสยังเป็นเครื่องมือในการแสดงสไตล์และความเป็นตัวตนของผู้ใช้ 

แต่.. ยังมีคนอีกกลุ่มนี้ ที่นิยมใช้เคส ด้วยเหตุผลคือ
ต้องการให้สมาร์ทโฟนอยู่ในสภาพดีที่สุด
หลังใช้งานไปสองถึงสามปี จากนั้น จะได้นำไปขายต่อเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด

ดังนั้น การเลือกเคสที่เหมาะสมจึงไม่เพียงแค่ปกป้องอุปกรณ์เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความสวยงามและประสิทธิภาพในการใช้งานสมาร์ทโฟนในทุกๆ วันอีกด้วย และเพือ่ให้เข้าใจถึง คุณสมบัติของวัสดุในการผลิตเคส เรามาดูกันว่า วัสดุในการผลิตเคส แต่ละประเภทมีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง


ข้อดีข้อเสียของวัสดุทำเคส

1. เคสซิลิโคน (Silicone Case)

ข้อดี

  • ความยืดหยุ่น เคสซิลิโคนมีความยืดหยุ่นสูง สามารถรับแรงกระแทกได้ดี และช่วยลดความเสียหายเมื่อทำสมาร์ทโฟนตก
  • จับถนัดมือ เนื้อสัมผัสของซิลิโคนทำให้จับได้ถนัดมือ ไม่ลื่นหลุดง่าย
  • น้ำหนักเบา เคสประเภทนี้มีน้ำหนักเบา ไม่เพิ่มน้ำหนักให้กับสมาร์ทโฟนมาก

ข้อเสีย

  • ดูดซับฝุ่นและสิ่งสกปรก ซิลิโคนสามารถดูดซับฝุ่นและสิ่งสกปรกได้ง่าย ต้องทำความสะอาดบ่อย
  • สึกหรอเร็ว เมื่อใช้งานไปนานๆ เคสอาจจะสึกหรอหรือยืดออก ทำให้ไม่กระชับกับสมาร์ทโฟน


2. เคสพลาสติกแข็ง (Hard Plastic Case)

ข้อดี

  • น้ำหนักเบา แม้จะมีความแข็งแรง แต่เคสพลาสติกแข็งยังมีน้ำหนักเบา และพกพาสะดวก
  • ราคาประหยัด เคสประเภทนี้มีราคาที่ไม่แพงมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเคสที่ใช้งานได้แบบทั่วไป

ข้อเสีย

  • แตกหักง่าย เคสพลาสติกแข็งมีโอกาสแตกหักเมื่อรับแรงกระแทกหนักๆ
  • ไม่สามารถซับแรงกระแทกได้ดี ไม่สามารถลดความเสียหายจากการตกหรือกระแทกได้ดีเท่าเคสซิลิโคน


3. เคสหนัง (Leather Case)

ข้อดี

  • หรูหรา เคสหนังมีรูปลักษณ์ที่หรูหราและดูดี มีสไตล์ที่เหมาะสมกับการใช้งานแบบธุรกิจ
  • ทนทานต่อรอยขีดข่วน หนังสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี และยังมีความทนทาน

ข้อเสีย

  • ราคาสูง เคสหนังมักมีราคาสูงกว่าเคสประเภทอื่นๆ เนื่องจากวัสดุและการผลิตที่ซับซ้อนกว่า
  • ดูแลรักษายาก ต้องดูแลรักษาให้ดีเพื่อไม่ให้หนังแห้งหรือเป็นรอยด่าง


4. เคสไฮบริด (Hybrid Case)

ข้อดี

  • ป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ เคสไฮบริดมักจะรวมข้อดีของวัสดุหลายประเภท เช่น ใช้พลาสติกแข็งป้องกันภายนอก และซิลิโคนภายในเพื่อซับแรงกระแทก
  • ความทนทานสูง มีความแข็งแรงและทนทานต่อการตกและกระแทกได้ดี

ข้อเสีย

  • น้ำหนักมากกว่า เคสไฮบริดมีน้ำหนักมากกว่าเคสซิลิโคนหรือเคสพลาสติก
  • ราคาสูงกว่าเคสทั่วไป เนื่องจากการออกแบบที่ซับซ้อนและใช้วัสดุหลายชนิด


 5. เคสยาง TPU (Thermoplastic Polyurethane)

ข้อดี

  • ยืดหยุ่นและทนทาน TPU มีความยืดหยุ่นมากกว่าเคสพลาสติกแข็ง และทนทานต่อการเสียดสีและรอยขีดข่วน
  • จับถนัดมือ เนื้อสัมผัสของยาง TPU ทำให้จับถนัดมือ ไม่ลื่นหลุดง่าย

ข้อเสีย

  • อาจเหลืองตามเวลา เคส TPU บางครั้งอาจเปลี่ยนสีเหลืองเมื่อใช้งานไปนานๆ
  • หนากว่าเคสพลาสติกบางๆ มีความหนามากกว่าเคสพลาสติกบางๆ อาจทำให้สมาร์ทโฟนดูหนาขึ้นเล็กน้อย


บทสรุป การเลือกเคสสมาร์ทโฟนที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคล และการใช้งานในชีวิตประจำวัน การพิจารณาวัสดุเคสอย่างรอบคอบจะช่วยให้ได้รับการป้องกันและความสะดวกสบายในการใช้งานที่ดีที่สุด