พลังของทองคำในโลกเทคโนโลยี

คุณทราบหรือไม่ว่า ทองคำเป็นโลหะมีค่า ที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่เพียงเพราะคุณค่าทางเศรษฐกิจ แต่ยังรวมถึงคุณสมบัติที่โดดเด่นของมัน 

ทองคำมีความสามารถในการนำไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม มีความต้านทานไฟฟ้าต่ำ และไม่เกิดการออกซิเดชันหรือการกัดกร่อน ซึ่งทำให้เป็นวัสดุที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการความแม่นยำและเสถียรภาพในการทำงานสูง 

ตัวอย่างเช่น เช่น CPU, หน่วยความจำ, การ์ดแสดงผล และขั้วต่อชนิดต่าง ๆ ทองคำถูกใช้ในปริมาณเล็กน้อยในแต่ละชิ้นส่วนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบ ลดการสูญเสียสัญญาณ และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ แม้ว่าจะมีต้นทุนสูง แต่คุณสมบัติพิเศษของทองคำก็ทำให้เป็นตัวเลือกที่ขาดไม่ได้ในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณภาพสูงในปัจจุบัน

ทองคำบนแผงวงจร CPU

แผงวงจร CPU ไม่ได้ทำจากทองคำแท้ทั้งหมด แต่มีการใช้ทองคำบางส่วนในกระบวนการผลิต เนื่องจากทองคำมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดย สาเหตุที่ใช้ทองคำในแผงวงจร มีดังนี้

1. การนำไฟฟ้าและความต้านทานต่ำ

ทองคำมีการนำไฟฟ้าสูงมาก และมีความต้านทานไฟฟ้าต่ำ ช่วยลดการสูญเสียพลังงานและสัญญาณในวงจร ทำให้สามารถส่งข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

2. ความคงทนต่อการกัดกร่อนและออกซิเดชัน

ทองคำไม่เกิดสนิมและทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้สามารถใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการความแม่นยำและความเสถียรในระยะยาว เช่น ขั้วต่อไฟฟ้า และหน้าสัมผัสในแผงวงจร

3. การยึดติดที่ดี

ทองคำสามารถยึดติดกับวัสดุอื่น ๆ ได้ดี เช่น การเชื่อมต่อระหว่างแผงวงจรและส่วนประกอบอื่น ๆ ทำให้การเชื่อมต่อมีความมั่นคงและลดความเสี่ยงต่อการหลุดหรือเสียหายของวงจร

ปริมาณทองคำที่ใช้ใน CPU 

จะแตกต่างกันไปตามแบบและรุ่นของ CPU 

โดยทั่วไปแล้ว ปริมาณทองคำที่ใช้ในแต่ละ CPU 

อยู่ในช่วง 0.001 ถึง 0.1 กรัม หรือ 1 ถึง 100 มิลลิกรัม 

ส่วนประกอบคอมฯ ที่ใช้ทองคำ

นอกจากใน CPU แล้ว ทองคำยังถูกใช้ในชิ้นส่วนอื่น ๆ ของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เนื่องจากคุณสมบัติที่ดีในการนำไฟฟ้าและความทนทานต่อการกัดกร่อน เช่นเดียวกับใน CPU ชิ้นส่วนที่ใช้ทองคำมีดังนี้:

1. ขั้วต่อ (Connectors)

ทองคำถูกใช้ในขั้วต่อสายเคเบิลต่าง ๆ เช่น ขั้วต่อ USB, HDMI, สายไฟฟ้า, และพอร์ตเชื่อมต่ออื่น ๆ เนื่องจากช่วยลดการสูญเสียสัญญาณและป้องกันการกัดกร่อนของขั้วต่อ

2. หน่วยความจำ (Memory Chips)

ในการผลิตชิปหน่วยความจำ เช่น RAM หรือ Flash Memory จะมีการใช้ทองคำในส่วนของขั้วต่อเพราะสามารถส่งสัญญาณไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้การทำงานมีความเสถียรมากขึ้น

3. การ์ดแสดงผล (Graphic Cards)

ในการ์ดแสดงผลหรือ GPU บางรุ่นจะมีการใช้ทองคำในส่วนขั้วต่อและวงจรภายใน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณและลดการรบกวนของสัญญาณไฟฟ้า

4. แผงวงจรหลัก (Motherboard)

แผงวงจรหลักมักมีการใช้ทองคำในขั้วต่อสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่น สล็อต PCI, ขั้วต่อไฟเลี้ยง, และส่วนเชื่อมต่อกับ CPU เพื่อให้การติดต่อสื่อสารระหว่างอุปกรณ์มีความเสถียร

5. ขั้วต่อในหน่วยจัดเก็บข้อมูล (Storage Device Connectors)

ทองคำถูกใช้ในขั้วต่อของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เช่น SSD และ HDD เพื่อป้องกันการสึกหรอและเพิ่มความทนทานต่อการใช้งาน

6. ขั้วต่อในแหล่งจ่ายไฟ (Power Supply Connectors)

ทองคำถูกใช้ในขั้วต่อที่เชื่อมระหว่างแหล่งจ่ายไฟกับแผงวงจรหลัก เพื่อให้การส่งพลังงานมีความเสถียรและป้องกันการเกิดปัญหาที่อาจเกิดจากการกัดกร่อนหรือสนิม

7. ขั้วต่อสายสัญญาณเสียงและภาพ (Audio/Video Connectors)

ทองคำถูกใช้ในขั้วต่อของสายสัญญาณเสียง เช่น สาย RCA และสายโคแอกเซียล (Coaxial) เพื่อให้คุณภาพเสียงและภาพมีความคมชัดและลดสัญญาณรบกวนที่อาจเกิดขึ้น

บทสรุป แม้จะใช้ทองคำในปริมาณเล็กน้อยในแต่ละชิ้นส่วน แต่เนื่องจากการใช้ทองคำช่วยให้ชิ้นส่วนเหล่านี้มีความคงทนและประสิทธิภาพสูง จึงเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมในการใช้งานด้านอิเล็กทรอนิกส์เป็นอย่างมาก