ในยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมโรงแรมให้ตอบสนองต่อความต้องการ และความคาดหวังของผู้เข้าพักที่เพิ่มขึ้น การเรียนรู้ และนำไปปฏิบัติจะเป็นแนวทางในการพัฒนาศักยภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าของโรงแรม
จากคำทำนายของ Ai ในอีก 10 ปีข้างหน้า โรงแรมจะต้องปรับตัวโดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ระบบอัจฉริยะเช่น AI และ IoT จะช่วยให้โรงแรมสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ขณะที่การใช้บล็อกเชนและเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยจะเพิ่มความมั่นคงและความเชื่อถือได้ในการให้บริการ เทคโนโลยีเสมือนจริงและการใช้หุ่นยนต์ในการบริการจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกสะดวกสบายและพิเศษกว่าเดิม
การพัฒนาเหล่านี้ไม่เพียงแค่เสริมสร้างความพึงพอใจของลูกค้า แต่ยังช่วยสร้างความยั่งยืนและความได้เปรียบในการแข่งขันของโรงแรมในอนาคตด้วย
แนวโน้มเทคโนโลยีสำหรับโรงแรมในอีก 10 ปีข้างหน้า
1. โรงแรมอัจฉริยะที่ใช้ AI
- รายละเอียด ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะถูกนำมาใช้ในการปรับปรุงบริการของโรงแรม เช่น ระบบตอบคำถามอัตโนมัติ (Chatbot) ที่สามารถตอบคำถามทั่วไปเกี่ยวกับบริการโรงแรมได้ทันที และสามารถช่วยในการทำความสะอาดห้องพักผ่านหุ่นยนต์ที่มีการเชื่อมต่อกับ AI เพื่อเรียนรู้และปรับปรุงการทำงานตามความต้องการของลูกค้า
- ตัวอย่าง โรงแรมในเครือ Marriott ได้ทดลองใช้ AI สำหรับการให้บริการข้อมูลและแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมือง นอกจากนี้ยังมีหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
2. ระบบเช็คอินและเช็คเอาท์แบบไร้สัมผัส
- รายละเอียด การใช้เทคโนโลยีเช็คอินและเช็คเอาท์แบบไร้สัมผัสจะเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้เข้าพัก โดยใช้แอปพลิเคชันมือถือหรือเทคโนโลยีจดจำใบหน้า ผู้เข้าพักสามารถทำการเช็คอินล่วงหน้าและเข้าไปในห้องพักโดยไม่ต้องใช้กุญแจ
- ตัวอย่าง Hilton Hotels ได้พัฒนาระบบ Digital Key ที่ให้ผู้เข้าพักสามารถใช้สมาร์ทโฟนในการปลดล็อกประตูห้องพักได้ นอกจากนี้ ยังมีการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าเพื่อทำให้การเช็คอินรวดเร็วและสะดวกขึ้น
3. การใช้หุ่นยนต์ในการบริการ
- รายละเอียด หุ่นยนต์สามารถทำงานต่าง ๆ ภายในโรงแรม เช่น ส่งอาหารไปยังห้องพัก นำกระเป๋าไปยังห้องพัก และทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลาง หุ่นยนต์สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงและมีความแม่นยำสูง ลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
- ตัวอย่าง โรงแรม Henn-na ในญี่ปุ่นใช้หุ่นยนต์ในการทำงานแทนพนักงาน เช่น หุ่นยนต์ต้อนรับที่สามารถเช็คอินลูกค้าได้ และหุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่ส่งของไปยังห้องพัก
4. ห้องพักที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ
- รายละเอียด ห้องพักจะสามารถปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมภายในตามความต้องการของผู้เข้าพักได้ เช่น ปรับแสงไฟ เสียงเพลง และอุณหภูมิ ผ่านระบบควบคุมอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ IoT
- ตัวอย่าง โรงแรม CitizenM ใช้ระบบ MoodPad ที่ให้ผู้เข้าพักสามารถควบคุมแสง อุณหภูมิ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องพักได้ผ่านแท็บเล็ตที่ติดตั้งในห้อง
5. เทคโนโลยีเสมือนจริง (VR) และเสริมจริง (AR)
- รายละเอียด VR และ AR จะถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้กับผู้เข้าพัก เช่น การใช้ VR เพื่อให้ผู้เข้าพักสามารถชมสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้โรงแรม หรือการใช้ AR เพื่อแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่สำคัญภายในโรงแรม
- ตัวอย่าง โรงแรม Marriott ได้เปิดตัวประสบการณ์ VR ชื่อ “VRoom Service” ที่ให้ผู้เข้าพักสามารถชมการท่องเที่ยวเสมือนจริงไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลกจากห้องพัก
6. อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) เพื่อการบริหารจัดการพลังงาน
- รายละเอียด ระบบ IoT จะถูกใช้ในการตรวจสอบและจัดการการใช้พลังงานในโรงแรม เช่น การควบคุมการเปิดปิดแสงไฟและเครื่องปรับอากาศโดยอัตโนมัติเมื่อไม่มีคนอยู่ในห้อง หรือการตรวจสอบการใช้พลังงานในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- ตัวอย่าง โรงแรม InterContinental ได้ใช้ระบบ IoT ในการตรวจสอบและควบคุมการใช้พลังงาน โดยสามารถลดการใช้พลังงานลงได้มากถึง 20% ผ่านการจัดการอัจฉริยะ
7. ระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ
- รายละเอียด ระบบความปลอดภัยในโรงแรมจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น กล้องวงจรปิดที่มี AI สำหรับการตรวจจับเหตุการณ์ผิดปกติ และระบบการจดจำใบหน้าที่สามารถตรวจจับผู้เข้าพักที่ไม่ได้รับอนุญาต
- ตัวอย่าง โรงแรมในเครือ Hyatt ใช้ระบบกล้องวงจรปิดที่มีความสามารถในการจดจำใบหน้าและการวิเคราะห์พฤติกรรม เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและการป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต
8. แพลตฟอร์มบล็อกเชนสำหรับการจองและชำระเงิน
- รายละเอียด บล็อกเชนจะถูกนำมาใช้ในการจองห้องพักและการชำระเงินเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความปลอดภัย การใช้บล็อกเชนช่วยให้การทำธุรกรรมมีความน่าเชื่อถือ และสามารถตรวจสอบได้ง่าย
- ตัวอย่าง Slock.it บริษัทสตาร์ทอัพด้านบล็อกเชน ได้พัฒนาแพลตฟอร์มที่ใช้บล็อกเชนเพื่อการจองห้องพักและการเช็คอินแบบไร้สัมผัส ลดความเสี่ยงจากการโกงหรือการละเมิดข้อมูล
9. แอปพลิเคชันและระบบออนไลน์สำหรับการสั่งซื้อบริการ
- รายละเอียด ผู้เข้าพักสามารถใช้แอปพลิเคชันเพื่อสั่งอาหารและเครื่องดื่ม บริการทำความสะอาด หรือการจองสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ผ่านมือถือ การใช้แอปพลิเคชันทำให้การสั่งบริการรวดเร็วและสะดวกขึ้น
- ตัวอย่าง แอปพลิเคชัน Bonvoy ของ Marriott ช่วยให้ผู้เข้าพักสามารถสั่งอาหาร เช็คเอาท์ และจองบริการเสริมต่าง ๆ ได้จากสมาร์ทโฟนของตนเอง
10. การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า
- รายละเอียด โรงแรมจะใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเรียนรู้พฤติกรรมและความชื่นชอบของผู้เข้าพัก จากนั้นนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับปรุงบริการ เช่น เสนอโปรโมชั่นพิเศษหรือบริการที่ตรงตามความต้องการ
- ตัวอย่าง โรงแรมในเครือ Accor ใช้ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อติดตามพฤติกรรมของลูกค้าในทุกๆ การเข้าพัก และใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการปรับปรุงประสบการณ์ที่ดีขึ้นในครั้งถัดไป
บทสรุป 10 เทคโนโลยีเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้การดำเนินงานของโรงแรมมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่โดดเด่นและพิเศษให้กับผู้เข้าพักด้วย เทคโนโลยีบางอย่างอาจเกิดขึ้นภายใน 1-2 ปีนี้ ดังนั้น การปรับตัวให้ทัน จะสามารถช่วยให้ธุรกิจโรงแรมสามารถดำเนินต่อไปได้ในอนาคต