Top 5 ฟรีโปรแกรมประชุมออนไลน์

Online Meeting

การประชุมออนไลน์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในยุคดิจิทัลที่เราทำงานและติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง เครื่องมือการประชุมออนไลน์ช่วยให้การสื่อสารเป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องพบปะกันตัวต่อตัว 

เครื่องมือเหล่านี้มีฟีเจอร์ที่ครอบคลุม เช่น การประชุมวิดีโอ, การแชร์หน้าจอ, การบันทึกการประชุม, และการแชท ซึ่งทำให้การทำงานร่วมกันในทีมเป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีความยืดหยุ่น

นอกจากนี้ เครื่องมือการประชุมออนไลน์ยังสนับสนุนการทำงานที่หลากหลาย เช่น การฝึกอบรม, การประชุมทางธุรกิจ, และการประชุมกับลูกค้า โดยไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางหรือเวลา สิ่งนี้ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางได้อย่างมาก


5 ฟรีโปรแกรมประชุมออนไลน์Online Meeting Tools

1. Zoom

เครื่องมือการประชุมออนไลน์ที่ช่วยให้การสื่อสารทางวิดีโอและเสียงเป็นไปได้อย่างราบรื่น มีฟีเจอร์การประชุมวิดีโอ, การแชร์หน้าจอ, การบันทึกการประชุม, และการสร้างห้องย่อย (Breakout Rooms) รองรับผู้ใช้จำนวนมากและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับการประชุมธุรกิจ, การศึกษา, และการทำงานร่วมกันในทีม ช่วยให้การสื่อสารและการทำงานร่วมกันเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะอยู่ห่างกัน

วิธีการใช้งาน 
  • 1. ดาวน์โหลด Zoom จากเว็บไซต์ [Zoom](https//zoom.us/download) หรือจาก App Store/Google Play
  • 2. ลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Zoom
  • 3. สร้างการประชุมใหม่ หรือเข้าร่วมการประชุมที่ได้รับลิงก์เชิญ
  • 4. ใช้ฟีเจอร์การแชร์หน้าจอเพื่อแสดงเอกสารหรือการนำเสนอ
  • 5. บันทึกการประชุมหรือจัดการการประชุมผ่านแผงควบคุม

ข้อดี
  • การใช้งานง่าย อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้
  • ฟีเจอร์หลากหลาย รองรับฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ห้องย่อย และการบันทึก
  • เสถียรภาพดี เชื่อมต่อได้ดีแม้มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก
ข้อเสีย
  • ปัญหาด้านความปลอดภัย มีรายงานปัญหาด้านความปลอดภัยในบางกรณี
  • ค่าธรรมเนียม ฟีเจอร์บางอย่างต้องใช้เวอร์ชันที่ต้องชำระเงิน

2. Microsoft Teams

เครื่องมือการทำงานร่วมกันที่รวมการประชุมออนไลน์, การแชท, การแชร์ไฟล์, และการจัดการโปรเจกต์ในที่เดียว รองรับการบูรณาการกับ Microsoft 365 ทำให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบาย ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อและความร่วมมือระหว่างสมาชิกทีมในองค์กรต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้หลายแอปพลิเคชัน

วิธีการใช้งาน 
  • 1. ลงทะเบียนใน Microsoft 365 หรือดาวน์โหลดแอป Microsoft Teams จาก Microsoft Teams 
  • 2. ลงชื่อเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft
  • 3. สร้างทีมและช่องทางการสนทนา
  • 4. เริ่มการประชุมผ่านช่องทางที่สร้างไว้ หรือส่งลิงก์เชิญ
  • 5. ใช้ฟีเจอร์การแชร์ไฟล์และการจัดการงานในทีม
 
 ข้อดี
  • การรวมฟีเจอร์ รวมการประชุม, การแชท, และการแชร์ไฟล์ในที่เดียว
  • เข้ากันได้ดี รวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ Microsoft 365 เช่น Outlook และ OneDrive
  • การจัดการทีม รองรับการจัดการทีมและโปรเจกต์
ข้อเสีย
  • การตั้งค่าอาจซับซ้อน การตั้งค่าและการเรียนรู้การใช้งานอาจใช้เวลา
  • ค่าใช้จ่าย บางฟีเจอร์ต้องใช้การสมัครสมาชิก

 3. Google Meet

เครื่องมือประชุมออนไลน์ที่เชื่อมต่อกับบัญชี Google ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการประชุมวิดีโอได้อย่างง่ายดาย ฟีเจอร์หลักรวมถึงการประชุมวิดีโอ, การแชร์หน้าจอ, และการบันทึกการประชุม (สำหรับบัญชี Google Workspace) ใช้งานง่ายผ่านเบราว์เซอร์โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม รองรับการประชุมกับผู้เข้าร่วมจำนวนมากและรวมเข้ากับบริการ Google อื่นๆ เช่น Google Calendar ทำให้การจัดการประชุมสะดวกและมีประสิทธิภาพ

วิธีการใช้งาน 
  • 1. เข้าสู่ระบบบัญชี Google ที่ Google Meet  หรือผ่าน Google Calendar
  • 2. คลิกที่ “เริ่มการประชุม” หรือ “เข้าร่วมการประชุม”
  • 3. ส่งลิงก์ประชุมให้ผู้เข้าร่วม
  • 4. ใช้ฟีเจอร์การแชร์หน้าจอหรือการสนทนาในระหว่างการประชุม

ข้อดี
  • บูรณาการกับ Google ใช้งานร่วมกับ Google Calendar และ Gmail ได้อย่างง่ายดาย
  • ฟรี บริการพื้นฐานไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใช้บัญชี Google
  • ไม่ต้องติดตั้ง สามารถใช้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้
ข้อเสีย
  • ฟีเจอร์จำกัด ฟีเจอร์บางอย่างต้องใช้บัญชี Google Workspace
  • ข้อจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม บางฟีเจอร์จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม

4. Cisco Webex

Cisco Webex คือแพลตฟอร์มการประชุมออนไลน์ที่มีฟีเจอร์ครบครัน เช่น การประชุมวิดีโอ, การแชร์หน้าจอ, การบันทึก, และการฝึกอบรมออนไลน์ เหมาะสำหรับการประชุมธุรกิจและการฝึกอบรมขนาดใหญ่ มีความปลอดภัยสูงและรองรับผู้เข้าร่วมจำนวนมาก สามารถใช้ในการจัดการการประชุมที่มีผู้เข้าร่วมมากและต้องการฟีเจอร์ขั้นสูงอย่างการจัดการผู้เข้าร่วมและการจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัย

วิธีการใช้งาน 
  • 1. ลงทะเบียนและดาวน์โหลดแอปจาก Cisco Webex 
  • 2. ลงชื่อเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Webex
  • 3. สร้างการประชุมใหม่ หรือเข้าร่วมการประชุมที่ได้รับลิงก์เชิญ
  • 4. ใช้ฟีเจอร์การแชร์หน้าจอและการจัดการการประชุม

ข้อดี
  • ฟีเจอร์สำหรับธุรกิจ รองรับการประชุมขนาดใหญ่และการฝึกอบรมออนไลน์
  • ความปลอดภัย มีฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยสูง
  • การสนับสนุนจำนวนมาก รองรับผู้เข้าร่วมจำนวนมาก
ข้อเสีย
  • ค่าใช้จ่าย เวอร์ชันที่เต็มรูปแบบมีค่าใช้จ่าย
  • ซับซ้อน อาจมีการตั้งค่าและการใช้งานที่ซับซ้อน

5. Skype for Business 

เครื่องมือการประชุมออนไลน์ที่มีฟีเจอร์การประชุมวิดีโอ, การแชท, การแชร์หน้าจอ, และการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VoIP). นอกจากนี้ยังสามารถจัดการการประชุมขนาดใหญ่, จัดตารางเวลาการประชุม, และบันทึกการประชุมได้

วิธีการใช้งาน
  • 1. ดาวน์โหลดและติดตั้ง Skype for Business จากเว็บไซต์ Microsoft
  • 2. ลงชื่อเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีที่จัดการโดยองค์กร
  • 3. สร้างการประชุมใหม่หรือเข้าร่วมการประชุมที่มีลิงก์เชิญ
  • 4. ใช้ฟีเจอร์การแชร์หน้าจอและการแชทในระหว่างการประชุม

ข้อดี
  • การรวมฟีเจอร์: รวมฟีเจอร์การประชุม, การแชท, และการแชร์ไฟล์
  • การบูรณาการ: เข้ากันได้ดีในระบบ Microsoft 365
  • การจัดการการประชุม: รองรับการจัดการการประชุมขนาดใหญ่และการบันทึกการประชุม
ข้อเสีย
  • การใช้งานอาจซับซ้อน: อาจมีการตั้งค่าที่ซับซ้อนสำหรับผู้ใช้ใหม่
  • ค่าใช้จ่าย: ฟีเจอร์บางอย่างต้องใช้การสมัครสมาชิก Microsoft 365

บทสรุป โปรแกรมประชุมออนไลน์ทั้ง 5 เป็นโปรแกรมที่นิยมใช้งานในประเทศไทย การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับความต้องการ และการทำงานร่วมกันของทีมคุณ จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการประชุมออนไลน์!

#App #Software #Marketing #Conference