เปลี่ยนบ้านธรรมดาเป็น Smart Home

mini robot in the living room

Google Home, Amazon Alexa, และ Apple HomeKit เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการควบคุมและจัดการอุปกรณ์ Smart Home ที่ช่วยให้คุณสามารถใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านของคุณผ่านคำสั่งเสียงหรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้ง่ายขึ้น มาดูกันว่าแต่ละแพลตฟอร์มคืออะไรและมีความสามารถอะไรบ้าง

3 แพลตฟอร์มทำบ้านเป็น Smart Home

Google Home

  • Google Home คือแพลตฟอร์มของ Google ที่ช่วยให้คุณควบคุมอุปกรณ์ Smart Home ผ่านคำสั่งเสียงด้วย Google Assistant ซึ่งเป็นระบบผู้ช่วยอัจฉริยะของ Google
  • อุปกรณ์ที่รองรับ: ลำโพงอัจฉริยะ Google Nest, สมาร์ทโฟน Android, และอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ Google Assistant
  • ความสามารถ: ควบคุมไฟฟ้า, ระบบรักษาความปลอดภัย, ระบบทำความเย็น/ทำความร้อน, ระบบเสียงและความบันเทิง, ตอบคำถาม, ตั้งเวลา, และควบคุมแอปพลิเคชันต่างๆ
ข้อดี
  • การทำงานร่วมกับ Google Services: รองรับการใช้งานร่วมกับ Google Calendar, Google Maps และบริการอื่นๆ ของ Google ได้อย่างราบรื่น
  • ความสามารถในการค้นหา: Google Assistant มีความสามารถในการค้นหาข้อมูลและตอบคำถามได้แม่นยำ
  • การรองรับอุปกรณ์: มีอุปกรณ์หลากหลายที่รองรับ Google Assistant เช่น ลำโพงอัจฉริยะ, สมาร์ทโฟน, และอุปกรณ์ Smart Home ต่างๆ
ข้อเสีย
  • ความเป็นส่วนตัว: มีความกังวลเรื่องการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานข้อมูลโดย Google
  • การพึ่งพา Google Services: หากคุณไม่ใช้งานบริการของ Google เป็นประจำ อาจจะไม่สะดวกในการใช้งานแพลตฟอร์มนี้
ค่าใช้จ่าย
  • ลำโพง Google Nest: ประมาณ 2,000-6,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่น
  • อุปกรณ์เสริม: ราคาแตกต่างกันไปตามประเภทและยี่ห้อ

Amazon Alexa

  • Amazon Alexa คือแพลตฟอร์มของ Amazon ที่ช่วยให้คุณควบคุมอุปกรณ์ Smart Home ผ่านคำสั่งเสียงด้วย Alexa ซึ่งเป็นระบบผู้ช่วยอัจฉริยะของ Amazon
  • อุปกรณ์ที่รองรับ: ลำโพงอัจฉริยะ Amazon Echo, สมาร์ทโฟน, และอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ Alexa
  • ความสามารถ: ควบคุมไฟฟ้า, ระบบรักษาความปลอดภัย, ระบบทำความเย็น/ทำความร้อน, ระบบเสียงและความบันเทิง, ตอบคำถาม, ตั้งเวลา, สั่งซื้อของออนไลน์ และควบคุมแอปพลิเคชันต่างๆ
ข้อดี
  • การทำงานร่วมกับ Amazon Services: สามารถสั่งซื้อสินค้าจาก Amazon ได้โดยตรง
  • ความยืดหยุ่น: รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ Smart Home หลากหลายยี่ห้อ
  • Alexa Skills: มีแอปและบริการที่เรียกว่า "Skills" ที่สามารถเพิ่มความสามารถให้ Alexa
ข้อเสีย
  • ความเป็นส่วนตัว: มีความกังวลเรื่องการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานข้อมูลโดย Amazon
  • การพึ่งพา Amazon Services: หากคุณไม่ใช้งานบริการของ Amazon เป็นประจำ อาจจะไม่สะดวกในการใช้งานแพลตฟอร์มนี้
ค่าใช้จ่าย
  • ลำโพง Amazon Echo: ประมาณ 2,000-5,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่น
  • อุปกรณ์เสริม: ราคาแตกต่างกันไปตามประเภทและยี่ห้อ

Apple HomeKit

  • Apple HomeKit คือแพลตฟอร์มของ Apple ที่ช่วยให้คุณควบคุมอุปกรณ์ Smart Home ผ่านแอปพลิเคชัน Home บน iPhone, iPad, Apple Watch หรือ Mac และคำสั่งเสียงด้วย Siri
  • อุปกรณ์ที่รองรับ: อุปกรณ์ iOS และ macOS, ลำโพงอัจฉริยะ HomePod, และอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ HomeKit
  • ความสามารถ: ควบคุมไฟฟ้า, ระบบรักษาความปลอดภัย, ระบบทำความเย็น/ทำความร้อน, ระบบเสียงและความบันเทิง, ตอบคำถาม, ตั้งเวลา, และควบคุมแอปพลิเคชันต่างๆ
ข้อดี
  • การรวมเข้ากับอุปกรณ์ Apple: ทำงานร่วมกับ iPhone, iPad, Apple Watch และ Mac ได้อย่างราบรื่น
  • ความเป็นส่วนตัว: Apple มีความเข้มงวดในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน
  • Siri: สามารถควบคุมอุปกรณ์ Smart Home ผ่าน Siri ซึ่งเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะของ Apple
ข้อเสีย
  • การรองรับอุปกรณ์: อุปกรณ์ Smart Home ที่รองรับ HomeKit มีจำกัดเมื่อเทียบกับ Google Home และ Amazon Alexa
  • ค่าใช้จ่ายสูง: อุปกรณ์ของ Apple มักมีราคาสูงกว่าเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น
ค่าใช้จ่าย
  • ลำโพง HomePod: ประมาณ 7,000-10,000 บาท
  • อุปกรณ์เสริม: ราคาแตกต่างกันไปตามประเภทและยี่ห้อ

แนวทางการเลือกใช้งาน

  • ความสะดวก
    หากคุณมีอุปกรณ์ของ Google, Amazon, หรือ Apple อยู่แล้ว การเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่คุณมีจะทำให้การตั้งค่าและการใช้งานง่ายขึ้น

  • ความเข้ากันได้
    ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ Smart Home ที่คุณต้องการใช้งานรองรับแพลตฟอร์มไหนบ้าง

  • ความสามารถของผู้ช่วยอัจฉริยะ
    Google Assistant, Alexa และ Siri มีความสามารถที่แตกต่างกันบ้าง เช่น การตอบคำถามหรือการสั่งงานต่างๆ


สรุปแนวทางการเลือกซื้อ

  • Google Home
    เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้บริการของ Google เป็นประจำ ค่าใช้จ่ายอยู่ในระดับปานกลาง

  • Amazon Alexa
    เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเลือกใช้อุปกรณ์ Smart Home หลากหลายยี่ห้อ ค่าใช้จ่ายอยู่ในระดับปานกลาง

  • Apple HomeKit
    เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้อุปกรณ์ของ Apple และต้องการความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ค่าใช้จ่ายอยู่ในระดับสูง

อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเลือกแพลตฟอร์มที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของคุณ เพื่อทำให้บ้านของคุณเป็น Smart Home ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อชีวิตที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเป็นปัจจัยหลักนั่นเอง