10 ข้อมูลส่วนบุคคล ที่ต้องพึงระวัง

Personal Data

ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) มีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลที่เราต้องติดต่อและทำธุรกรรมออนไลน์บ่อยครั้ง การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการฉ้อโกงและการโจมตีทางไซเบอร์ แต่ยังเป็นการรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของบุคคลทุกคน 

ข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วยข้อมูลที่สามารถระบุหรือเชื่อมโยงถึงตัวบุคคล เช่น ชื่อ, หมายเลขบัตรประชาชน, ข้อมูลการติดต่อ, และข้อมูลทางการเงิน การระวังและป้องกันข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการละเมิดข้อมูล การจัดการข้อมูลอย่างระมัดระวังและมีสติจะช่วยให้เราสามารถปกป้องสิทธิ์และความเป็นส่วนตัวของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับ ข้อมูลส่วนบุคคล บทความนี้ จะอธิบายแยกเป็นข้อๆ พร้อมคำแนะนำเบื้องต้นในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของเรา 

10 ข้อมูลส่วนบุคคล ที่ต้องระวัง 

1. ชื่อและนามสกุล  
  • ความสำคัญ: ใช้เพื่อระบุบุคคลและการยืนยันตัวตน  
  • คำแนะนำ: อย่าเผยแพร่หรือแชร์ข้อมูลชื่อเต็มในที่สาธารณะหากไม่จำเป็น ควรใช้นามแฝง

2. หมายเลขบัตรประชาชน  
  • ความสำคัญ: ใช้สำหรับการตรวจสอบตัวตนและการทำธุรกรรมทางการเงิน  
  • คำแนะนำ: เก็บหมายเลขบัตรประชาชนอย่างปลอดภัยและไม่แชร์ให้กับบุคคลหรือองค์กรที่ไม่น่าเชื่อถือ และโดยเฉาพะตัวเลขหลังบัตรประชาชน 12 หลัก

3. หมายเลขโทรศัพท์  
  • ความสำคัญ: ใช้ในการติดต่อและรับข้อมูลส่วนบุคคล  
  • คำแนะนำ: ใช้หมายเลขโทรศัพท์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการติดต่อธุรกิจ และระมัดระวังการให้ข้อมูลกับแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะการแชร์ในโลกออนไลน์ ยิ่งต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง

4. ที่อยู่  
  • ความสำคัญ: ใช้ในการส่งเอกสารหรือพัสดุ  
  • คำแนะนำ: ให้ที่อยู่เฉพาะเมื่อจำเป็น และตรวจสอบความปลอดภัยขององค์กรที่ได้รับข้อมูล

5. ข้อมูลทางการเงิน (บัญชีธนาคาร, ข้อมูลบัตรเครดิต)  
  • ความสำคัญ: ใช้สำหรับการทำธุรกรรมทางการเงิน  
  • คำแนะนำ: ใช้เฉพาะกับเว็บไซต์ที่มีการเข้ารหัสข้อมูลและมีความน่าเชื่อถือ ชื่อเว็บไซต์ที่มีการเข้ารหัส จะขึ้นคำว่า https://  ต้องมีตัวอักษร "s" ต่อท้ายเสมอ ถ้าเว็บไซต์ไหนไม่มี ห้าม ! กรอกรายละเอียดข้อมูลบัตรเครดิต โดยเด็ดขาด

6. ข้อมูลสุขภาพ  
  • ความสำคัญ: ใช้สำหรับการดูแลสุขภาพและการรักษาพยาบาล  
  • คำแนะนำ: แชร์ข้อมูลสุขภาพกับผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับความเห็นชอบ รวมทั้งเอกสารเกี่ยวกับสุขภาพ ก็ไม่ควรทิ้งในถังขยะ โดยไม่มีการทำลายก่อน

7. ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ (ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน)  
  • ความสำคัญ: ใช้สำหรับการเข้าถึงบัญชีและบริการออนไลน์  
  • คำแนะนำ: ใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อนและเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นระยะ ๆ  รหัสผ่านที่ดี ควรมีความยาวอย่างน้อย 8 ตัว แต่แนำนำขั้นต่อควรเป็น 12 ตัว และรหัสผ่าน ควรประกอบด้วย ตัวอักษรเล็กและใหญ่ ตัวเลข และอัขระพิเศษ รวมอยู่ด้วย

8. ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานอินเทอร์เน็ต (IP Address, ประวัติการค้นหา)  
  • ความสำคัญ: ใช้ในการติดตามพฤติกรรมการใช้งานและการตลาด  
  • คำแนะนำ: ใช้เครื่องมือรักษาความเป็นส่วนตัว เช่น VPN (Virtual Private Network) เพื่อปกป้องข้อมูล โดยเทคโนโลยี VPN จะทำการสร้างการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว โดยการเข้ารหัสข้อมูลและซ่อนที่อยู่ IP ของผู้ใช้

9. ภาพถ่ายและวิดีโอ  
  • ความสำคัญ: ใช้ในการระบุตัวตนและสร้างความทรงจำ  
  • คำแนะนำ: ควบคุมการแชร์ภาพถ่ายและวิดีโอ โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ละเอียดอ่อน

10. ข้อมูลการติดต่ออื่นๆ (อีเมล, ไอดีโซเชียลมีเดีย)  
  • ความสำคัญ: ใช้ในการสื่อสารและสร้างเครือข่าย  
  • คำแนะนำ: ตรวจสอบความปลอดภัยของแอปพลิเคชันหรือบริการที่ใช้ในการติดต่อ

บทสรุป ข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ได้หมายถึงแค่บัตรประชาชน แต่ยังรวมถึง ข้อมูลการใช้งาน สื่อสารผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต การระวังและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลมีความสำคัญในการป้องกันการถูกโจมตีทางไซเบอร์ การฉ้อโกง และการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

#Privacy #Law