Freeware คือซอฟต์แวร์ที่ผู้พัฒนามอบให้ใช้ฟรีโดยไม่มีข้อจำกัดในการใช้งาน ขณะที่ Shareware อนุญาตให้ผู้ใช้ทดลองใช้ซอฟต์แวร์ในระยะเวลาหนึ่งหรือฟีเจอร์บางอย่างก่อนที่จะต้องชำระเงินเพื่อใช้งานเต็มรูปแบบ การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมกับความต้องการได้มากขึ้น
ฟรีแวร์ Freeware
- นิยาม: ซอฟต์แวร์ที่แจกให้ผู้ใช้ใช้งานได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่มีข้อจำกัดในการใช้งานหลักๆ
- ลิขสิทธิ์: ผู้พัฒนาโปรแกรม ยังคงเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์และสามารถกำหนดข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ห้ามแก้ไขซอฟต์แวร์ เป็นต้น
- การใช้งาน: ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องชำระเงิน และห้ามนำไปจำหน่าย
แชร์แวร์ Shareware
- นิยาม: ซอฟต์แวร์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ทดลองใช้ก่อนที่จะต้องชำระเงินเพื่อใช้งานต่อ
- ลิขสิทธิ์: ผู้พัฒนาโปรแกรม ยังคงเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์และอาจกำหนดเงื่อนไขการใช้งาน เช่น การจำกัดเวลาการใช้งานหรือฟีเจอร์ที่มีให้ทดลองใช้
- การใช้งาน: ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดและทดลองใช้งานได้ฟรี แต่จะต้องชำระเงินเพื่อใช้งานต่อหรือปลดล็อกฟีเจอร์เพิ่มเติม
ความแตกต่างหลักของ Freeware กับ Shareware
- Freeware ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในการใช้งาน ส่วน Shareware จะมีค่าใช้จ่ายหลังจากช่วงทดลอง
- Freeware มักจะไม่มีข้อจำกัดในฟีเจอร์ ส่วน Shareware มักจะจำกัดฟีเจอร์หรือเวลาการใช้งานในช่วงทดลอง
- Freeware มักจะไม่มีการสนับสนุนเพิ่มเติมในขณะที่ Shareware มักจะมีการสนับสนุนเพิ่มเติมเมื่อชำระเงิน
ตัวอย่าง Shareware ยอดนิยม
- Adobe Acrobat Reader DC - โปรแกรมเปิดไฟล์ PDF
- Nero Burning ROM - โปรแกรมเขียนและบันทึก CD/DVD
- Norton Antivrus - โปรแกรมกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์
- WinRAR - โปรแกรมบีบอัดและคลายไฟล์
- WinZip - โปรแกรมบีบอัดและคลายไฟล์
ตัวอย่าง Freeware ยอดนิยม
- Audacity - โปรแกรมบันทึกและแก้ไขไฟล์เสียง
- CCleaner - โปรแกรมลบไฟล์ขยะ
- GIMP - โปรแกรมแก้ไขภาพ
- Spotify - โปรแกรมฟังเพลงออนไลน์ แต่มีโฆษณา
- VLC Media Player - โปรแกรมเล่นไฟล์เพลงวีดีโอ
บทสรุปแบบสั้นๆ และเข้าใจง่ายๆ Freeware เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วน Shareware ให้ทดลองใช้ก่อนแล้วต้องชำระเงินเพื่อใช้ต่อ ความแตกต่างนี้ช่วยให้ผู้ใช้เลือกซอฟต์แวร์ที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณได้ดียิ่งขึ้น