รู้ไหม TV ก็มีระบบปฏิบัติการ

TV Operating System

ระบบปฏิบัติการบน Smart TV คือซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้โทรทัศน์สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้หลากหลาย ระบบปฏิบัติการเหล่านี้มักมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การรับชมสื่อที่มีคุณภาพสูงและการใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น 

แม้ว่าแต่ละระบบปฏิบัติการบนทีวี จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แต่ทั้งหมดนี้มุ่งเน้นที่การเพิ่มประสบการณ์การรับชมให้ดียิ่งขึ้น เอาเป็นว่า มาลองดูว่า ระบบปฏิบัติการบนทีวี มีอะไรบ้าง 


ระบบปฏิบัติการบนสมาร์ททีวี

1. Android TV

  • ข้อดี
    Smart TV ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android มีข้อดีหลายประการ ได้แก่ การเข้าถึงแอปพลิเคชันที่หลากหลายจาก Google Play Store, การรวมฟังก์ชัน Google Assistant สำหรับการควบคุมด้วยเสียง, การอัพเดทระบบปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยและการปรับปรุงประสิทธิภาพ, และการเชื่อมต่อที่ดีเยี่ยมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน Google Services. ระบบนี้ยังรองรับการปรับแต่งที่หลากหลายตามความต้องการของผู้ใช้

  • ข้อเสีย
    อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานร่วมกับบางแอปพลิเคชัน, การตั้งค่าอาจซับซ้อน


2. webOS (LG)

  • ข้อดี
    Smart TV ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ webOS (LG) มีข้อดีหลายประการ ได้แก่ อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้การค้นหาและการใช้งานแอปพลิเคชันสะดวก, รองรับ Magic Remote ที่ควบคุมด้วยการชี้, และมีฟีเจอร์การค้นหาที่รวดเร็วและสะดวก

    นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนบริการสตรีมมิ่งหลัก ๆ ทำให้การเข้าถึงเนื้อหาต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่น

  • ข้อเสีย
    แอปพลิเคชันอาจมีจำกัดกว่าบางระบบ, การอัพเดทระบบปฏิบัติการไม่บ่อยนัก


3. Tizen (Samsung)

  • ข้อดี
    Smart TV ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen ของ Samsung มีข้อดีหลายประการ เช่น การทำงานที่รวดเร็วและราบรื่น, อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและสะดวก, รองรับการเชื่อมต่อที่ดีทั้งกับอุปกรณ์ Samsung อื่น ๆ และบริการสตรีมมิ่งหลัก ๆ เช่น Netflix และ YouTube

    นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Smart Hub ที่ช่วยในการจัดการเนื้อหาต่าง ๆ ได้ง่ายและมีความสามารถในการปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานให้เหมาะสมกับผู้ใช้

  • ข้อเสีย
    แอปพลิเคชันอาจมีจำกัด, การอัพเดทระบบปฏิบัติการอาจไม่สม่ำเสมอ


4. Roku TV

  • ข้อดี
    Smart TV ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Roku TV มีข้อดีหลายประการ ได้แก่ การใช้งานที่ง่ายและไม่ซับซ้อน, อินเทอร์เฟซที่ชัดเจน, และการเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งหลัก ๆ ได้สะดวก รวมถึงการมีช่องทางในการค้นหาคอนเทนต์ที่หลากหลาย

    ระบบรองรับการติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติม และมีการสนับสนุนที่ดีจากชุมชนผู้ใช้ รวมทั้งการอัพเดทซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ระบบทันสมัยอยู่เสมอ

    สมาร์ททีวี (บางรุ่น) ที่ใช้ได้แก่ TCL, Hisense, Sharp และ Philips

  • ข้อเสีย
    ฟีเจอร์อาจไม่ครบถ้วนเท่า Android TV, การปรับแต่งมีข้อจำกัด


5. Amazon Fire TV

  • ข้อดี
    Smart TV ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Amazon Fire TV มีข้อดีหลายประการ ได้แก่ การบูรณาการที่ดีเยี่ยมกับ Amazon Echo และบริการ Amazon Prime Video, การเข้าถึงแอปพลิเคชันที่หลากหลายจาก Amazon Appstore, รองรับการควบคุมด้วยเสียงผ่าน Alexa ทำให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น และมีฟีเจอร์ที่ใช้งานง่ายที่ช่วยให้การสตรีมมิ่งเนื้อหาต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่น

  • ข้อเสีย
    มีการเน้นการโปรโมตบริการของ Amazon, แอปพลิเคชันบางตัวอาจไม่มีให้ใช้งาน


6. Apple TV (tvOS)

  • ข้อดี
    Smart TV ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Apple TV (tvOS) มีข้อดีหลายประการ ได้แก่ การบูรณาการที่ยอดเยี่ยมกับผลิตภัณฑ์ Apple อื่น ๆ เช่น iPhone และ iPad, การเข้าถึง App Store ที่มีแอปพลิเคชันหลากหลาย, การรองรับ Siri สำหรับการควบคุมด้วยเสียง, และการสร้างประสบการณ์การรับชมที่ราบรื่นด้วยการอัพเดทระบบปฏิบัติการที่สม่ำเสมอ

    นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อที่ดีเยี่ยมกับบริการสตรีมมิ่งและเนื้อหาคุณภาพสูงจาก Apple TV+

  • ข้อเสีย
    ราคาอุปกรณ์อาจสูง, จำกัดเฉพาะผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ Apple


7. Hisense VIDAA

  • ข้อดี
    Smart TV ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Hisense VIDAA มีข้อดีหลายประการ เช่น อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ซึ่งทำให้การค้นหาและการเข้าถึงเนื้อหาต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ยังรองรับบริการสตรีมมิ่งหลัก ๆ เช่น Netflix และ YouTube ได้อย่างสะดวก

    ระบบ VIDAA ยังมีการอัพเดทที่ต่อเนื่องและรองรับการปรับแต่งได้ดี ทำให้ประสบการณ์การใช้งานมีความยืดหยุ่นและตอบสนองความต้องการได้ดี

  • ข้อเสีย
    แอปพลิเคชันบางตัวอาจมีจำกัด, อัพเดทระบบปฏิบัติการไม่บ่อย


บทสรุป การเลือกระบบปฏิบัติการบนทีวี ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้และความสะดวกในการใช้งาน รวมถึงงบประมาณในแต่ละแบรนด์อีกด้วย