Mesh WiFi เป็นเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สาย ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความครอบคลุม และความเสถียรของสัญญาณ WiFi ภายในบ้านหรือสำนักงาน โดยการใช้ระบบเครือข่าย ที่ประกอบด้วยอุปกรณ์หลายตัวที่สามารถสื่อสารกันได้อย่างต่อเนื่อง และไม่ต้องพึ่งพาจุดเชื่อมต่อหลักเพียงจุดเดียว (เช่น เราเตอร์ทั่วไป)
เทคโนโลยีนี้มีความสามารถในการกระจายสัญญาณ WiFi ให้ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่และลดจุดอับสัญญาณที่มักเกิดขึ้นในบ้านที่มีหลายชั้นหรือมีผนังหนา
รายละเอียดการใช้งาน Mesh WiFi
- WiFi Mesh Networks
ใช้ในเครือข่าย Wi-Fi ภายในบ้านหรือสำนักงานเพื่อขยายสัญญาณให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น โดยอุปกรณ์แต่ละตัวในเครือข่ายจะทำงานร่วมกันเพื่อส่งต่อสัญญาณ - IoT (Internet of Things)
ใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT หลาย ๆ ตัวเพื่อให้สามารถสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ - Smart Cities
ใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ในเมือง เช่น กล้องวงจรปิด ไฟถนน เซนเซอร์ต่าง ๆ เพื่อสร้างระบบการจัดการเมืองที่มีความฉลาด - Disaster Recovery
ใช้ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ ทำให้สามารถสร้างเครือข่ายสื่อสารได้รวดเร็วและยืดหยุ่น
ข้อดีของ Mesh WiFi
- ความครอบคลุม
การเชื่อมต่อแบบ Mesh ช่วยให้สามารถขยายพื้นที่การเชื่อมต่อได้ง่าย - ความเสถียร
การที่มีการเชื่อมต่อกันระหว่างอุปกรณ์หลายตัว ทำให้หากอุปกรณ์หนึ่งมีปัญหา อุปกรณ์อื่น ๆ สามารถส่งต่อข้อมูลได้ - ความยืดหยุ่น
สามารถเพิ่มหรือลดอุปกรณ์ในเครือข่ายได้ง่าย - ลดภาระศูนย์กลาง
ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์ศูนย์กลางมากนัก ทำให้ลดความเสี่ยงที่เครือข่ายจะล่มทั้งระบบ
ข้อเสียของ Mesh WiFi
- ค่าใช้จ่าย
การติดตั้งและดูแลรักษาอุปกรณ์หลาย ๆ ตัวอาจมีค่าใช้จ่ายสูง เพราะต้องติดตั้งอย่างน้อย 2 ตัว - การจัดการเครือข่าย
การจัดการและการตั้งค่าเครือข่ายที่มีความซับซ้อนต้องการความรู้และทักษะที่สูง - ประสิทธิภาพ
การเชื่อมต่อผ่านหลาย ๆ อุปกรณ์อาจทำให้ประสิทธิภาพการส่งข้อมูลลดลงเล็กน้อย - ความปลอดภัย
เนื่องจากมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายตัว ทำให้มีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีได้มากขึ้น
เทคโนโลยี Mesh WiFi เป็นทางเลือกที่ดีในการขยายสัญญาณ และเพิ่มความเสถียรของเครือข่ายภายในบ้านและสำนักงาน แต่ก็มีข้อควรพิจารณาข้อดีและข้อเสีย เพื่อตัดสินใจในการใช้งานให้เหมาะสมกับความต้องการ
ขั้นตอนการติดตั้ง Mesh WiFi
1. เลือกอุปกรณ์ Mesh WiFi
- เลือกชุดอุปกรณ์ Mesh Network ที่เหมาะสมกับขนาดของพื้นที่ที่ต้องการครอบคลุม โดยปกติชุดอุปกรณ์จะประกอบด้วย Mesh Router (หลัก) และ Mesh Node (เสริม)
2. การเชื่อมต่อ Mesh Router (หลัก)
- ต่อ Mesh Router เข้ากับโมเด็มอินเทอร์เน็ตโดยใช้สาย Ethernet
- เสียบปลั๊กไฟให้ Mesh Router และเปิดเครื่อง
3. การตั้งค่า Mesh Router (หลัก)
- ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันที่ใช้ในการตั้งค่า Mesh Wi-Fi ตามที่ผู้ผลิตแนะนำ (เช่น Google Home สำหรับ Google Nest Wi-Fi, Linksys App สำหรับ Linksys Velop)
- เปิดแอปพลิเคชันและทำตามคำแนะนำในการตั้งค่า Mesh Router ซึ่งจะรวมถึงการตั้งชื่อเครือข่าย (SSID) และรหัสผ่าน
4. การวางตำแหน่ง Mesh Node (เสริม)
- วาง Mesh Node ในตำแหน่งที่ห่างจาก Mesh Router ไม่เกินระยะที่แนะนำ (เช่น ครึ่งหนึ่งของระยะทางที่ต้องการครอบคลุม)
- เสียบปลั๊กไฟให้ Mesh Node และรอให้เชื่อมต่อกับ Mesh Router โดยอัตโนมัติ
5. การตั้งค่า Mesh Node (เสริม)
- ใช้แอปพลิเคชันในการเพิ่ม Mesh Node เข้าสู่เครือข่าย ทำตามคำแนะนำในแอปพลิเคชัน
6. ตรวจสอบสัญญาณและการเชื่อมต่อ
- ใช้แอปพลิเคชันในการตรวจสอบสัญญาณ Wi-Fi และตรวจสอบว่าอุปกรณ์ทั้งหมดเชื่อมต่อกันอย่างถูกต้อง
- หากพบว่ามีจุดที่สัญญาณอ่อน สามารถย้ายตำแหน่งของ Mesh Node หรือเพิ่ม Node เพิ่มเติมได้
ข้อควรระวังในการติดตั้ง
- การวางตำแหน่งอุปกรณ์
วาง Mesh Node ในตำแหน่งที่ไม่มีสิ่งกีดขวางมากเกินไป เพื่อให้สัญญาณ Wi-Fi สามารถกระจายได้ดี - การเชื่อมต่อกับโมเด็ม
ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Mesh Router เชื่อมต่อกับโมเด็มได้อย่างถูกต้อง และมีการตั้งค่าอินเทอร์เน็ตที่ถูกต้อง - การตั้งค่าเครือข่าย
ตั้งชื่อเครือข่ายและรหัสผ่านที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันการเข้าถึงเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
การติดตั้ง Mesh WiFi ไม่ยากและสามารถทำได้ด้วยตัวเอง หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนของผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม
นอกเหนือจาก Mesh WiFi แล้ว ยังมี Technology ที่มีความสามารถใกล้เคียงกัน รวมทั้งความสามารถในการกระจายสัญญาณได้เช่นเดียวกัน อุปกรณ์ที่ว่านี้คือ Access Point (AP) และ Repeater จะอธิบายเพิ่มเติมอีกครั้งในบทความต่อๆ ไป