Ai กับ Generative Ai เหมือนหรือต่างกัน

Generative Ai

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้กลายเป็นเทคโนโลยีสำคัญในยุคดิจิทัลที่มีความสามารถในการประมวลผลและตัดสินใจเชิงซับซ้อนเพื่อช่วยมนุษย์ในหลายด้าน Generative AI เป็นสาขาหนึ่งของ AI ที่เน้นการสร้างเนื้อหาใหม่ ๆ โดยใช้การเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพ ข้อความ เสียงเพลง หรือแม้กระทั่งโมเดลสามมิติ 

การพัฒนา Generative AI เช่น Generative Adversarial Networks (GANs) และ Transformer Models ได้เปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานและนวัตกรรมในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งศิลปะ การแพทย์ และการพัฒนาเกม

AI (Artificial Intelligence) และ Generative AI มีความแตกต่างกันในหลายด้านดังนี้


AI (Artificial Intelligence)

AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความสามารถในการเรียนรู้และทำงานตามการตั้งโปรแกรมได้ โดยทั่วไป AI สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก

  • Narrow AI (หรือ Weak AI)
    เป็น AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเฉพาะด้าน ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชันการจดจำเสียง, การวิเคราะห์ข้อมูล, และแชทบอท

  • General AI (หรือ Strong AI)
    เป็น AI ที่มีความสามารถในการทำงานหลากหลายด้านและสามารถทำความเข้าใจหรือแก้ไขปัญหาได้เหมือนมนุษย์ ซึ่งในปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนของการวิจัยและพัฒนา


Generative AI

Generative AI เป็นสาขาหนึ่งของ AI ที่เน้นไปที่การสร้างเนื้อหาใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยใช้การเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่ ตัวอย่างของ Generative AI คือ

  • Generative Adversarial Networks (GANs)
    โมเดลที่ประกอบด้วยสองเครือข่ายที่ทำงานร่วมกัน คือ เครือข่ายผู้สร้าง (Generator) และเครือข่ายผู้แยกแยะ (Discriminator) เครือข่ายผู้สร้างจะสร้างเนื้อหาใหม่ เช่น ภาพ หรือ ข้อความ ในขณะที่เครือข่ายผู้แยกแยะจะพยายามแยกแยะระหว่างเนื้อหาที่สร้างขึ้นกับเนื้อหาจริง

  • Variational Autoencoders (VAEs)
    โมเดลที่ใช้ในการสร้างข้อมูลใหม่ที่มีความสมจริงและใกล้เคียงกับข้อมูลต้นแบบ โดยใช้การบีบอัดและการขยายข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ

  • Transformer Models
    เช่น GPT-3 และ GPT-4 ที่ใช้ในการสร้างข้อความ, การแปลภาษา, และการตอบคำถามโดยอิงจากข้อมูลที่ได้เรียนรู้


ความแตกต่างหลักๆ

  • AI ทั่วไป มุ่งเน้นที่การทำงานที่มีการตั้งโปรแกรมหรือมีเงื่อนไขที่ชัดเจน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล, การจดจำภาพ, และการให้คำแนะนำ
  • Generative AI มุ่งเน้นที่การสร้างเนื้อหาใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น การสร้างภาพ, การแต่งเพลง, และการเขียนข้อความโดยใช้รูปแบบและข้อมูลที่มีอยู่


ตัวอย่างการใช้งาน

  • AI ทั่วไป
    การวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์, ระบบแนะนำสินค้าในอีคอมเมิร์ซ, และการวินิจฉัยโรค

  • Generative AI
    การสร้างภาพใหม่จากข้อมูลที่มีอยู่, การเขียนบทความหรือเรื่องราว, และการสร้างเสียงเพลงหรือเสียงพูด

โดยสรุป AI และ Generative AI มีความสัมพันธ์กันในฐานะที่ Generative AI เป็นส่วนย่อยของ AI ซึ่งเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยใช้ข้อมูลและการเรียนรู้จากโมเดลต่างๆ