คงไม่มีใครไม่รู้จัก “เฟสบุ๊ค”(Facebook) ซึ่งตามสถิติจากคอมสกอร์ (comSCORE.) ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมดในประเทศไทยเข้าเฟสบุ๊คมากเป็นอันดับที่ 3 จากจำนวนการเข้าเวปไซต์ทั้งหมด นอกจากนี้ โทรศัพท์มือถืออย่าง iPhone, Blackberry, Samsung, หรือ Nokia ก็ยังช่วยให้เข้าเช็คเฟสบุ๊คได้ตลอดเวลาไม่ว่าคุณอยู่ที่ไหน

ข้อดีหลัก ๆ ของเฟสบุ๊ค คือ เพื่อนที่ไม่เคยติดต่อกันนานเป็นสิบ ๆ ปี เพื่อนสมัยเรียนประถม มัธยม หรือแม้แต่แฟนเก่าที่ร้างราห่างหายกันไปนาน เราก็อาจตามกันเจอได้ไม่ยากในสังคมออนไลน์แห่งนี้ที่มีชื่อว่า เฟสบุ๊ค

วิธีการปกติในการหาใครสักคนที่คุณต้องการ “เป็นเพื่อน” ในเฟสบุ๊ค คือ การพิมพ์ชื่อ หรือ อีเมลล์ของคนคนนั้นลงในช่องค้นหาของเฟสบุ๊ค แล้วข้อมูลของคนนั้นก็จะขึ้นมาปรากฏให้เห็น (หากเขาเล่นเฟสบุ๊คเหมือนกัน) แต่หากคุณไม่รู้จักชื่อ หรือคุณอยากจะลองหาใครสักคนตามคุณสมบัติที่คุณต้องการ เช่น ชอบเล่น Angry Birds, เป็นแฟน Liverpool, ชอบ Star Wars, คลั่ง Bodyslam, ไปทะเลบ่อย ๆหรือแม้แต่เป็นผู้ชายที่สนใจผู้ชายด้วยกัน คุณก็สามารถหาได้โดย search tool หรือ เครื่องมือค้นหาใหม่ของเฟสบุ๊คที่มีชื่อว่าFacebook Graph Search

หัวหน้าใหญ่แห่งเฟสบุ๊ค Mark Zuckerberg พร้อมทีมงานนักพัฒนาโปรแกรมได้ออกแบบโปรแกรมFacebook Graph Searchเพื่อเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้ใช้เฟสบุ๊คสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้เฟสบุ๊คคนอื่น ๆ ได้ทั่วโลก เช่น หากคุณอยากรู้ว่ามีใครที่อยู่เมืองเดียวกันกับคุณบ้าง คุณก็ค้นหาได้โดยพิมพ์ “people who live in my city” (คนที่อยู่ในเมืองเดียวกันกับฉัน)ลงไปในช่องค้นหา ข้อมูลที่ขึ้นมาหลัก ๆ แล้วจะเป็นเพื่อนของคุณในเฟสบุ๊ค แต่ก็ยังรวมไปถึง “ใครก็ไม่รู้” ที่อยู่เมืองเดียวกันกับคุณด้วย หรือ “Women who likes Linkin Park.” (สาว ๆ ที่ชอบ Linkin Park) โปรแกรมนี้ก็จะแสดงผลผู้หญิงที่ “กดไลค์” หรือ เขียนว่าตนเองชอบ Linkin Park

ฟังดูแค่นี้ก็คงจะไม่คิดว่า Graph Search จะสร้างปัญหาอะไร แต่ถ้าหากค้นหาข้อมูลเช่น “Islamic men interested in men who live in Tehran, Iran” (ชายนับถืออิสลามที่สนใจผู้ชายในประเทศอิหร่าน) ซึ่งเป็นที่ที่การรักร่วมเพศถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต หรือค้นหาข้อความขำ ๆ แต่อาจไม่ขำ เช่น “Married people who like prostitutes” (คนที่แต่งงานแล้วที่ชอบโสเภณี) ผลที่ออกมา นอกจากจะเป็นคนที่แต่งงานแล้ว แล้วได้กดไลค์คำว่า “โสเภณี” ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ผลที่ได้ยังรวมไปถึงข้อมูลของคู่สมรสของบุคคลเหล่านี้อีกด้วย! ซึ่งในปัจจุบัน สิ่งนี้กลายเป็นประเด็นถกเถียงในเรื่อง Privacy หรือสิทธิความเป็นส่วนตัวที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ

เห็นอย่างนี้แล้ว เราจะทำอย่างไรดีเพื่อหนีให้พ้นจากการค้นหาของFacebook Graph Search ?

วิธีการก็คือ ผู้ใช้สามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัว (Privacy) ในบัญชีของตน เช่น ตั้งว่าจะให้ใครเห็นโพสข้อความ ข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณ หรือรูปภาพของคุณบ้าง ซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนของคุณ (Friends) หรือจะให้ใครเห็นก็ได้  เพราะถ้าคุณตั้งเป็น สาธารณะ หรือ Public แล้ว โปรแกรม Graph Search ตัวนี้ ก็จะแสดงข้อมูลนั้น ๆ เกี่ยวกับตัวคุณหากข้อมูลของคุณตรงกับข้อความที่ค้นหา ดังนั้น วิธีการที่จะทำให้คุณไม่ถูกกระทบสิทธิความเป็นส่วนตัวจาก Facebook Graph Search ตัวนี้ ก็คือการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในบัญชีเฟสบุ๊คของคุณหากคุณตั้งค่าไว้ให้ “เพื่อน” ของคุณเห็นเท่านั้น เจ้าโปรแกรมตัวนี้ก็จะไม่นำข้อมูลคุณไปเปิดเผยให้กับ “คนอื่น”

รู้อย่างนี้แล้ว อย่ารอช้า รีบเปิดคอมพ์  หรือหยิบ โทรศัพท์มือถือ smartphone สุดที่รักของคุณขึ้นมา แล้วเข้าไปตั้งค่าข้อมูลของคุณในเฟสบุ๊คตอนนี้เลย ก่อนที่ใครก็ไม่รู้จะมานั่งกดอ่านข้อมูล หรือดูรูปภาพของคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว


Menu