Internet Cafe คือธุรกิจการให้บริการ internet, check email หรือแม้แต่นำมาเล่นเกมส์ออนไลน์ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ไม่สูง ทั้งนี้จากแนวโน้มการใช้งาน internet ยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และที่สำคัญ internet เป็นแหล่งความรู้ ต่าง ๆ มากมาย และประกอบกับคนส่วนใหญ่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้กันในครอบครัว
การทำ Internet Cafe ทำอย่างไร จริง ๆ แล้วการทำธุรกิจ Internet Cafe นั้น ไม่ยากขอให้มีทำเลดี ส่วนเรื่องเงินทุนก็ไม่มากนัก และนอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทคอมพิวเตอร์หลายราย ให้บริการจัดตั้ง Internet Cafe แบบครบวงจร หมายถึงจัดหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และทั้งติดตั้งให้จนเสร็จสิ้น สำหรับการจัดทำ internet cafe พอสรุปรายละเอียดอุปกรณ์ได้ดังนี้
- คอมพิวเตอร์
ควรใช้เครื่องที่ค่อนข้าง update ที่สุด เผื่อสำหรับไว้ในอนาคต - เครืองพิมพ์
อาจใช้เป็นเครื่องพิมพ์ Laser สำหรับพิมพ์รายงาน หรือเอกสารทั่ว ๆ ไป - การ์ดแลน Network Card
เรียกอีกอย่างได้ Network Interface Card (NIC) บางท่านอาจเรียก Network Adapter แต่ความหมายจริง ๆ ก็เหมือนกัน นั่นคือ เป็นแผงวงจรที่ทำหน้าที่ในการสื่อสารข้อมูลกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ที่อยู่ในระบบเดียวกัน การ์ดแลนรุ่นเก่าจะเป็นแบบ ISA (I-SA Bus) ต้องเสียบเข้ากับช่อง หรือ Slot แบบ ISA (16 bits) สีน้ำตาลเข้ม ส่วนอีกแบบหนึ่งคือ PCI ซึ่งต้องเสียบเข้ากับช่อง หรือ Slot PCI (32 bits) สีขาวหรือสีไข่ไก่ ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นแบบ PCI ทั้งหมด ส่วนเรื่องความเร็วสามารถเลือกได้ทั้ง 10 Mbps, 100 Mbps หรือ 10/100 Mpbs สำหรับการใช้งาน internet cafe ให้เลือกที่ความเร็ว 10 Mbps - สายสัญญาณ Network Cable
เป็นสายสัญญาณที่ใช้เชื่อต่อในระบบแลน ประเภทของสายสัญญาณสามารถแบ่งออกได้เป็น 1. สาย Coaxial มี 2 ชนิดคือ แบบหนา (Thick Coaxial) และบาง (Thin Coaxial) 2. สาย Twisted Pair มี 2 ชนิดเช่นเดียวกัน คือ STP (Sheild Twisted Pair) และ UTP (Unsheild Twisted Pair) สำหรับสายที่นิยมใช้ในทำ internet cafe คือ UTP ซึ่งมีแบบ Catagory 3 (CAT 3) (อีกแบบหนึ่งคือ Catagory 5 (CAT 5) ซึ่งรองรับความเร็วสูงกว่า) สำหรับหัวสายที่ใช้ในการต่อเรียกว่า RJ45 ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกับหัวสายโทรศัพท์แต่จะมีขนาดใหญ่กว่า (ยี่ห้อของสายแลนที่เป็นที่นิยมคือ AMP) - Hub (อุปกรณ์ในการกระจายสัญญาน)
อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ HUB มีหลายขนาด เช่น 5 Port, 8 Port, 16 Port, 24 Port เป็นต้น ความเร็วก็เลือกได้ที่ 10 Mbps, 100 Mpbs, 10/100 Mpbs เช่นเดียวกับการ์ดแลน โดยปกติความยาวในการต่อ HUB จะมีความยาวไม่เกิน 100 เมตร (สาย UTP) - Modem
อุปกรณ์ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ปัจจุบันควรเลือกที่ความเร็ว 56 Kbps (Kbps : Kilobye per secont) - Proxy Software
1. ซอร์แวร์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันได้แก่ Microsoft Proxy, WinGate เป็นต้น หรืออาจใช้เป็นฮาร์ดแวร์ก็ได้ 2. ฮาร์ดแวร์ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ WebRamp (การทำ sharing โดยใช้ hardware จะดีกว่า เนื่องจากเวลามีปัญหา จะไม่เสียหายทั้งระบบ) สำหรับฮาร์ดแวร์บางยี่ห้อ จะมี Modem ให้ในตัว - โปรแกรมการใช้งาน
โปรแกรมการใช้งานส่วนใหญ่ เช่น Email, ICQ, Pirch, Microsoft Chat หรือแม้แต่โปรแกรม Browser เช่น Microsoft Internet Explore, Netscape, Opera ก็เป็นโปรแกรมแจกฟรี สามารถเลือก download ได้ทางอินเตอร์เน็ต ดังนั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายในการซื้อซอร์ฟแวร์ลิขสิทธิ์ ขั้นตอนการจัดทำ คือ นำคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกันโดยผ่าน Network Card (Network Card ต่อกับ Network Cable และเข้าสู่ HUB) จากนั้นเชื่อมระบบโทรศัพท์ ผ่าน Modem ไปยัง ISP โดยผ่าน Proxy เท่านี้ เครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ที่ต่อ HUB ก็จะสามารถเล่น internet ได้ แต่ไม่ต่อเครืองคอมพิวเตอร์เกิน 5 ชุด (การต่อแบบนี้จะเสียค่าใช้จ่ายเพียง 1 Account เท่านั้น) สำหรับรายละเอียดการติดตั้งคอมพิวเตอร์ระบบ Peer to Peer หรือ Client Server, อยากทราบเกี่ยวกับ Internet และ Internet ความเร็วสูง สำหรับนำมาใช้ในธุรกิจ อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ก็สามารถหาความรู้เพิ่มเติมใน it-guides ด้วยการใส่ คำค้นหาได้ที่นี่ ขั้นตอนการติดตั้ง Network Card
- ปิดสวิทซ์คอมพิวเตอร์
- เปิดฝาเครื่องคอมพพิวเตอร์
- นำ Network Card เสียบกับ Slot ของคอมพิวเตอร์
- เปิดสวิทซ์ เข้า windows
- ปกติ Windows จะเรียกให้ใส่ Driver ของ Lan Card อัตโนมัติ
- ใส่แผ่น driver ของ Network card ใน drive A:
- ทำตามขั้นตอนจนเสร็จ และ Restart เครื่องใหม่
|